ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.57 ระหว่างวันแข็งค่าหลุด 34.50 รอลุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 13, 2023 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.57 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.67 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทปรับตัวแข็งค่าจากเช้า ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบค่อนข้างกว้างที่ 34.47 - 34.71 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัย สำคัญที่นักลงทุนรอดูคืนนี้ คือ การรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ซึ่งตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.1%

"ระหว่างวัน เงินบาทแข็งค่าหลุด 34.50 บาทไปช่วงหนึ่ง แต่ก็มีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้ามา ส่วนคืนนี้ต้องรอดูเงินเฟ้อ สหรัฐฯ เพราะหากออกมาสูงหรือต่ำกว่า 4.1% ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ก็จะมีผลต่อค่าเงินได้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45 - 34.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 139.52 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 139.56 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0808 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0766 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,562.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.99 จุด (+0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 41,920 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 475.62 ลบ.(SET+MAI)
  • นักวิเคราะห์จากมูดี้ส์ คาดว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ เดือนพ.ค. จะชะลอตัวลงมากพอที่จะทำให้คณะกรรม
การเฟดตัดสินใจระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ เนื่องจากเฟดเองก็รอดูข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อประกอบการ
ตัดสินใจด้านนโยบายการเงินในระยะยาว
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้ว่า ธนาคารโลก และกองทุนการ
เงินระหว่างประเทศ (IMF) เป็นสองสถาบันการเงินระดับโลกที่จะสามารถถ่วงดุลอิทธิพลของจีนที่กำลังเพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
  • จีนกำลังพิจารณาที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง หลังจากรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
เผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น เพื่อเร่งออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลงอย่างมากในขณะนี้
  • ธนาคารกลางจีน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย reverse repurchase rate ระยะ 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ระยะสั้น ลง 0.10% สู่ระดับ 1.9% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการผ่อนคลายนโยบายการเงินนี้ มีขึ้นก่อนที่
ธนาคารกลางจีน จะดำเนินการทางการเงินรายเดือนผ่านทางเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ในวันที่ 15 มิ.ย.
  • การผิดนัดชำระหนี้ในตลาดตราสารหนี้ขยะ มูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ นั้น ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ เนื่อง

จากการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทที่มีความเสี่ยงจากต้นทุนการ

กู้ยืมแบบลอยตัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ