นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมร่วมกับสมาพันธ์ SME ไทยว่า ได้มีการหารือถึงทิศทางในการบริหารเศรษฐกิจแบบมหภาค และหารือถึงสถานการณ์ SME ไทย และมีการเปรียบเทียบ SME ไทย กับอาเซียน ถึงเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินกู้, สัดส่วน SME ต่อจีดีพีของแต่ละประเทศ พร้อมทั้งการชี้แจงนโยบายสำคัญของพรรค
นอกจากนี้ ได้หารือถึงแนวทางช่วยเหลือ SME ด้วยการ "เพิ่มรายได้" ด้วยหวยใบเสร็จ ทำให้ SME มีแต้มต่อมากขึ้น "ลดรายจ่าย" ในเรื่องค่าใช้จ่ายต้นทุนพลังงาน หรือต้นทุนการเงินที่ SME เข้าถึงได้ยาก และต้องการกู้นอกระบบ และ "ขยายโอกาส" ในการต่อรอง
"เป็น 3 เรื่องหลักๆ เมื่อเราตั้งรัฐบาลสำเร็จเมื่อไร จะรีบผลักดัน เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสให้กับ SME กลับมาฟื้นโดยเร็วหลังโควิด-19 และต่อสู้กับเศรษฐกิจโลก และสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้" นายพิธา กล่าว
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์ SME ไทย กล่าวว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปตรงกันที่จะปลุกเศรษฐกิจฐานรากและการกระจายรายได้ไปสู่ท้องถิ่นด้วยหวยใบเสร็จ ซึ่งเป็นแนวทางน่าสนใจ และยินดีที่จะสนับสนุนแนวทางนี้ รวมถึงการทำ SME วอลเล็ต และส่งเสริมผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ไปเติบโตสู่สากล
ทั้งนี้ ได้มีหารือเรื่องแก้ปัญหาต้นทุนให้ SME และค่าครองชีพประชาชน ซึ่งจะอยู่ในนโยบายลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการในวิกฤตต่างๆ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น และเรื่องแหล่งทุนต้นทุนต่ำ ที่เห็นตรงกันว่าต้องมีการทำเรื่องกองทุน หาช่องทางให้ผู้ประกอบ SME ได้รับประโยชน์จากแหล่งทุนต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะ SME รายย่อย รวมถึงการฟื้นฟู SME ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดที่ผ่านมา
นอกจากนี้ มีการหารือเรื่องการยกระดับขีดความสามารถ SME และภาคแรงงาน ต้องการดึงแรงงานนอกระบบเข้าระบบ และการเพิ่มทักษะฝีมือแรงงานและผู้ประกอบการ และได้หารือเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องกฏหมาย กฏระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการ SME ซึ่งเห็นตรงกันจะทำคณะทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนตอบโจทย์ในกระบวนการตั้งสภา SME ด้วย
นายแสงชัย กล่าวว่า ในภาคเอกชนได้มีการพูดคุยในภาวะช่วงสุญญากาศที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งสมาพันธ์ฯ มั่นใจว่าสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย เชื่อว่าการตั้งรัฐบาลจะเป็นไปตามกลไกรัฐสภา เที่ยงธรรม โปร่งใส และมองว่าการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประชามติของคนทั้งประเทศนั้น สมาพันธ์ฯ จะต้องเคารพเสียง และให้การสนับสนุน ไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะเป็นรัฐบาล ก็ขอให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข