นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสัญจรพื้นที่ภาคตะวันออก มีประเด็นสำคัญที่หอการค้าฯ ส่วนกลาง และภาคตะวันออกนัดหารือกัน คือ เรื่องสถานการณ์ผลไม้ภาคตะวันออกที่ปีนี้ราคาผลผลิตค่อนข้างดี โดยจากรายงานของกระทรวงเกษตรฯ พบว่าเพียง 120 วัน แรกของปี (ก.พ.-พ.ค.) สามารถส่งออกทุเรียนไปยังประเทศจีนกว่า 4.5 แสนตัน สร้างรายได้กว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าการส่งออกของปีที่แล้ว
สำหรับปีนี้ ได้รับฟังเสียงข้อมูลจากกลุ่มผู้ประกอบการและภาคเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออก ทราบว่า ราคาผลไม้โดยเฉพาะความต้องการทุเรียนยังคงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งนี้ หอการค้าฯ ภาคตะวันออก ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกผลไม้ทุกชนิดของประเทศไทยในปีนี้อาจเติบโตถึง 2-3 แสนล้านบาท จากปีที่แล้วที่มีมูลค่าถึง 1.72 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรและผู้ประกอบการส่งออกทุเรียนในพื้นที่ มีความกังวลถึงความเสี่ยงของตลาด ที่ปัจจุบันยังพึ่งพารายได้จากการส่งออกโดยเฉพาะจีนที่สูงถึง 96% ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมด ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่เกิดวิกฤตโควิด-19 เห็นได้ชัดว่าจำเป็นต้องหาตลาดใหม่ๆ เข้ามารองรับ และกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดจีนส่วนใหญ่อย่างเดียว
ทั้งนี้ ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และหอการค้าตั้งเป้าขยายการส่งออกผลไม้ไทย คือตะวันออกกลางโดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักผลไม้และทุเรียนไทย เนื่องจากปิดความสัมพันธ์กันไปกว่า 32 ปี โดยหอการค้าฯ มีแผนที่จะประสานงานกับสถานทูตไทยในซาอุดิอาระเบียจัดกิจกรรม Durian Party เพื่อประชาสัมพันธ์และเปิดประสบการณ์ใหม่กับผลไม้ไทยที่ขึ้นชื่อว่ามีรสชาติดี พร้อมทั้งการนำเอาสินค้าจิวเวลรี่ และพลอยของภาคตะวันออก ไปจัดแสดงให้กับผู้บริหารและแขกคนสำคัญของซาอุฯ เพื่อขยายตลาดอัญมณีไปยังกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงด้วย