ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.00 แนวโน้มผันผวน จับตาผลโหวตประธานสภาฯ วันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 4, 2023 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนที่ระดับ 35.22 บาท/ดอลลาร์

ในช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น และเคลื่อนไหวในกรอบ 34.95-35.25 บาท/ดอลลาร์ ตามการอ่อนค่าลงของ เงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ โดยเงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนสูง ท่ามกลางปัจจัยการเมืองในประเทศที่เริ่มมีผลกับ ตลาดการเงินไทยมากขึ้นในระยะนี้

"ไฮไลท์สำคัญที่ควรจับตาอย่างใกล้ชิด คือ ผลการโหวตเลือกประธานสภาฯ ในวันนี้ ซึ่งการประชุมสภาฯ จะเริ่มต้นในเวลา 9.00 น. และกระบวนการโหวตเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 ตำแหน่ง อาจใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง"

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงที่ตลาดทยอยรับรู้ผลการเลือกประธานสภาฯ เพราะหากผลการเลือกเป็นไปตามที่ทั้งพรรค ก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยเสนอและแถลงในคืนก่อน เรามองว่า ตลาดการเงินอาจตอบรับในเชิงบวก หนุนให้เงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมา แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทดสอบโซนแนวรับ 34.90 บาท/ดอลลาร์ได้ไม่ยาก แต่หากผลการเลือกประธานสภาฯ ผิดจากคาด และสะท้อนความ วุ่นวายทางการเมือง หรือความไม่แน่นอนของการจัดตั้งรัฐบาล เราประเมินว่า เงินบาทก็มีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้เช่นกัน

ธนาคารกรุงไทย มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.20 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.05625 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 144.62 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 144.40/80 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0906 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0860/0905 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.187 บาท/ดอลลาร์
  • จับตาปัจจัยการเมืองในประเทศที่สำคัญวันนี้ คือการลงมติโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าผลที่ออกมาจะเป็นไปตาม
ข้อตกลงของ 2 พรรคใหญ่ "ก้าวไกล-เพื่อไทย" ที่เสนอชื่อ "นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา" หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภาฯ
หรือไม่ และจะมีพรรคฝ่ายรัฐบาลในปัจจุบันเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานสภาฯ แข่งในครั้งนี้ด้วยหรือไม่
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.9% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และให้น้ำหนักเพียง 10.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ
5.00-5.25%
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่
1,929.50 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อ
ขาย ก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติของสหรัฐฯ 4 ก.ค.
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่
นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย.
  • ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือนมิ.ย. ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.0 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.63 และต่ำกว่าที่นัก
วิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 47.0 โดยดัชนียังคงปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และเป็นการหดตัวติดต่อ
กันเดือนที่ 8
  • นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 13-14 มิ.ย.66 ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ รวมทั้งการเปิดเผยตัว
เลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้าย

เดือนมิ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย., คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการ

ประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย., ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขจ้างงานนอกภาค

เกษตรเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ