นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา "Thailand Taxonomy กติกาใหม่เพื่อโลกที่ยั่งยืน"ว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมที่เร่งตัวและส่งผลกระทบรุนแรง ต้องยอมรับว่าการปรับตัวสู้ความท้าทายนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยทุกภาคส่วนต่างตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความสำคัญของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมไทยไปสู่ความยั่งยืน
สำหรับประเทศไทยโครงสร้างเศรษฐกิจที่มีสัดส่วนสำคัญยังอยู่ในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิมและพึ่งพาเชื้อเพลิงจากฟอสซิล หรือ คิดเป็น 30% ของ GDP ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการปรับรูปแบบการทำธุรกิจ และวางแผนการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกภาคส่วนในไทยจึงต้องเตรียมการและปรับตัวไปสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้ทันการณ์ และไม่สะดุด
ด้านภาคการเงินในฐานะตัวกลางจัดสรรเงินทุนจึงเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการปรับตัวโดยคำนึงถึง"timing" และ "speed" ไม่ให้ช้าเกินไปจนความเสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหาย และไม่เร็วเกินไปจนตัดขาดธุรกิจที่ยังไม่พร้อม
การที่ภาคการเงินจะสนับสนุนเงินทุนได้อย่างตรงจุด จำเป็นต้องทราบก่อนว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กร หรือธุรกิจ มีสถานะการดำเนินการอย่างคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมในระดับใด จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือกลุ่มสีเขียวหรือไม่ ถ้าไม่ เราอยู่ห่างจากความ "เขียว" แค่ไหน จะได้เตรียมการและดำเนินการปรับตัวได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ สถาบันการเงินต้องสามารถประเมินสถานะของพอร์ตตนเองได้ว่ามีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้สามารถประเมินโอกาสและความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
การกำหนดนิยามความเขียวของแต่ละคนปัจจุบันมีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานกลางในการกำหนดนิยามและจัดกลุ่มกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า Taxonomy แม้ว่าในหลายประเทศจะมีการกำหนดนิยามความเขียวขึ้นมาแล้ว แต่บริบทของไทยก็ไม่ได้เหมือนกับต่างประเทศ
ดังนั้น ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จึงได้ร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่อผลักดันให้มี Thailand Taxonomy ที่เหมาะสมกับบริบทของไทย และสอดคล้องกับหลักสากล โดยในระยะที่ 1 จะมุ่งเน้นวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเรื่อง climate change mitigation ก่อน และครอบคลุมภาคเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงได้แก่ ภาคพลังงานและภาคการขนส่งและจะทยอยทำในภาคเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ เช่น ภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรในระยะต่อไป
"ผมต้องขอขอบคุณคณะทำงาน Thailand Taxonomy ที่ช่วยกันจัดทำ Thailand Taxonomy ระยะที่ 1 จนเสร็จสมบูรณ์ และขอขอบคุณ International Finance Corporation ที่สนับสนุนเงินทุนในการจัดทำมาตรฐานนี้ รวมทั้ง ขอขอบคุณทุกภาคส่วนสำหรับความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ที่ได้ส่งมาให้คณะทำงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาคส่วนต่างๆ จะนำ Thailand taxonomy มาใช้เป็นแนวทางอ้างอิงในการกำหนดนโยบายหรือกลยุทธ์การสร้างโอกาสในการหาแหล่งเงินทุน ตลอดจนการบริหารจัดการโอกาสและความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างเหมาะสม" นายรณดล กล่าว
สำหรับภาคการเงิน ธปท. คาดหวังว่าสถาบันการเงินจะนำ Thailand Taxonomy ไปใช้เป็นจุดยึดโยงเพื่อประเมินสถานะของตนเองและลูกค้า เพื่อให้ทราบว่าสถานะพอร์ตในภาพรวมของสถาบันการเงินมีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมแค่ไหนจะได้บริหารจัดการความเสี่ยงได้ และเพื่อให้ทราบว่าลูกค้าของสถาบันการเงินจัดอยู่ในกลุ่มไหน ซึ่งการที่สถาบันการเงินทราบสถานะของทั้งตนเองและลูกค้านั้นจะทำให้สถาบันการเงินสามารถเริ่มต้นตั้งเป้า ปรับกลยุทธ์และการดำเนินงานภายในวางแผนปรับตัว ออกแบบและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจไปสู่เส้นทางที่เป็นสีเขียวมากขึ้นได้อย่างราบรื่นและทันการณ์
นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การพัฒนา Thailand Taxonomy เป็นผลจากการร่วมดำเนินงานของคณะทำงานขับเคลื่อนการกำหนดนิยามและจัดหมวดหมู่โครงการหรือกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดย Thailand Taxonomy ระยะที่ 1 จะมุ่งเน้นการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคพลังงาน และภาคการขนส่ง ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกในสัดส่วนสูงก่อน เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศไทย
โดยมีการจัดกลุ่มกิจกรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไว้ใช้ประเมินหรือกำหนดเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเป็นหนึ่งในทางเลือกเพื่อใช้อ้างอิงสำหรับการเข้าถึงบริการและเครื่องมือทางการเงิน ที่จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม โดย ธปท. และ ก.ล.ต. ได้นำความเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ และองค์กรระหว่างประเทศ มาประกอบการพิจารณาจัดทำ Thailand Taxonomy ระยะที่ 1 จนเสร็จสมบูรณ์แล้ว
"Thailand Taxonomy ได้ช่วยส่งเสริมบทบาทของภาคการเงินรวมถึงตลาดทุนในฐานะที่เป็นตัวกลางในการจัดสรรเงินทุนในระบบเศรษฐกิจ เพื่อการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของประเทศ" นางสาวจอมขวัญ กล่าว