นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผย ว่า ในการประชุม กกพ.ครั้งที่ 32/2566 (ครั้งที่ 860) เมื่อวันที่ 5 ก.ค.66 ได้มีมติเห็นชอบผลการคำนวณประมาณค่าเอฟทีสำหรับงวด เดือน ก.ย.-ธ.ค.66 พร้อมให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการและแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปรับฟังความคิดเห็นในกรณีต่างๆ ดังนี้
กรณีที่ 1 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างทั้งหมด) ปรับค่า Ft เป็น 249.81 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณการที่ สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชำระเงิน กฟผ. 135,297 ล้านบาท เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาท/ หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพิ่มขึ้นเป็น 6.28 บาท/หน่วย
กรณีที่ 2 (ตรึงค่า Ft เท่ากับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.66) ค่า Ft อยู่ที่ 91.19 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีก ประมาณการที่สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และทยอยชำระเงิน กฟผ.38,291 ล้านบาท เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับสูง ขึ้น เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงเดิมที่ 4.70 บาท/หน่วย
กรณีที่ 3 (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างใน 5 งวด) ค่า Ft ลดลงมาที่ 66.89 สตางค์/หน่วย แบ่งเป็น Ft ขายปลีกประมาณ การที่สะท้อนต้นทุน 28.58 สตางค์/หน่วย และทยอยชำระเงิน กฟผ.แบ่งเป็น 5 งวดๆ ละ 23,428 ล้านบาท โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือน ธ.ค.66 มีภาระหนี้คงเหลือที่ต้องชำระคืนให้ กฟผ.จำนวน 111,869 ล้านบาท ทำให้ค่าไฟฟ้า (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ลดลงเป็น 4.45 บาท/หน่วย ตามข้อเสนอของ กฟผ.
สำหรับผลการคำนวณประมาณค่า FT และแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. ทั้ง 3 กรณีที่กล่าวข้างต้นเป็น ไปตามการประมาณการต้นทุนเชื้อเพลิงโดย ปตท.และ กฟผ.นำประมาณการดังกล่าวมาคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่งสำนักงาน กกพ.ได้จัดทำ สรุปสมมุติฐานที่ใช้การประมาณการค่าเอฟทีในรอบคำนวณเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 เทียบกับการคำนวณในปีฐาน พ.ค.-ส.ค.58 และรอบ ประมาณการค่าเอฟทีเดือน พ.ค.-ส.ค.66 ดังนี้
สมมุติฐาน หน่วย พ.ค.-ส.ค.58 พ.ค.-ส.ค.66 ก.ย.-ธ.ค.66 เปลี่ยนแปลง - ราคาก๊าชฯทุกแหล่ง บาท/ล้านบีทียู 289* 399 346 -53(-13%) - ราคา Pool Gas บาท/ล้านบีทียู 264 379 323 -56(-15%) - ราคาน้ำมันเตา บาท/ลิตร 15.20 16.40 21.56 +5.15(+31%) - ราคาน้ำมันดีเซล บาท/ลิตร 25.86 27.83 25.93 -1.90(-7%) - ราคาลิกไนต์ (กฟผ.) บาท/ตัน 569.70 820.00 820.00 0(0%) - ราคาถ่านหินนำเข้า (IPPs) บาท/ตัน 2,825.70 6,016.23 3,018.99** -2,997.24(-50%) สัดส่วนก๊าซฯ ในPool Gas พันล้านบีทียู/วัน - 3,689 3,507 -182(-5%) - อ่าวไทย - 1,405 1,532 +127(-9%) - เมียนมา - 537 545 +8(+2%) - LNG - 1,747 1,430 -317(-18%) การใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้า ล้านลิตร/เดือน ไม่อยู่ในแผน ตามความจำเป็น ตามความจำเป็น - ราคา Spot LNG USD/ล้านบีทียู - 19.70 14.15 -5.55(-28%) อัตราแลกเปลี่ยน บาท/USD 33.05 33.23 34.24 +1.01(+3%) หมายเหตุ: *ราคาก๊าซฯ รวมค่าขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อและค่าดำเนินการของโรงไฟฟ้า กฟผ. และโรงไฟฟ้าเอกชน IPPs
**ราคาถ่านหินโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีไม่รวมโรงไฟฟ้าเก็กโค่-วัน
เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) ที่ลดลงในรอบ พ.ค.-ส.ค.66 ส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อค่าประมาณการค่า Ft งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 แม้ว่าก๊าซฯ จากอ่าวไทยจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นแต่จากสถานการณ์ ความไม่แน่นอนของแหล่งก๊าซฯ ในเมียนมา ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซฯ ในภาคปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นทำให้ปริมาณก๊าซที่ ส่งให้ภาคไฟฟ้ามีจำนวนจำกัด นอกจากนี้การเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวของยุโรปส่งผลให้ความต้องการใช้ LNG เพิ่มมากขึ้นและอาจส่งผลต่อราคา LNG ในตลาดเอเชีย สำนักงาน กกพ.ร่วมกับ ปตท., กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม สถานการณ์การผลิตและใช้ก๊าซฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานในราคาที่เหมาะสม
"จะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในรอบเดือนกันยายน-ธันวาคม 2566 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ.ตั้งแต่วันที่ 7-21 กรกฎาคม 2566 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป" นายคมกฤช กล่าว