ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (10-14 ก.ค.) ที่ระดับ 34.80-35.50 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดในวันศุกร์ที่ 7 ก.ค. ที่ระดับ 35.24 บาท/ดอลลาร์
ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยขยับแข็งค่าในช่วงแรก ก่อนลดช่วงบวกลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทแข็งค่าผ่านแนว 35.00 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงแรก โดยมีแรงหนุนหลังการเปิดประชุมสภาฯ ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องจากข้อมูลดัชนีราคา PCE และ Core PCE ของสหรัฐฯ ล่าสุดในเดือนพ.ค. ที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ขณะที่ตลาดยังคงรอติดตามความคืบหน้าในประเด็นอื่นๆ ของการเมืองไทย ส่วนเงินดอลลาร์ทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังบันทึกการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่ออกมาดีกว่าที่คาดหนุนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุม FOMC เดือนก.ค. นี้
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 3-7 ก.ค. นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 8,010 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 10,043 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 15,432 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 5,389 ล้านบาท)
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์การเมืองในประเทศ และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมิ.ย. รายงาน Beige Book ของเฟด ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองผู้บริโภคเดือนก.ค. (เบื้องต้น) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนในเดือนมิ.ย. อาทิ ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน ดัชนีราคาผู้บริโภคและ ดัชนีราคาผู้ผลิต ด้วยเช่นกัน