นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ แถลงภายหลังหารือกับนางช่าย ลี่ซิน รองประธานเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้มาเชิญตัวแทนรัฐบาลไทยเข้าร่วมงาน The 20th China - ASEAN Expo (CAEXPO 2023) ซึ่งจะจัดวันที่ 16-19 ก.ย.นี้
ทั้งนี้ มณฑลกว่างซี ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน มีพื้นที่อ่าวเป่ยปู้ และมีท่าเรือชินโจว ได้โปรโมทการจัดทำระเบียงการค้าระหว่างประเทศ ทั้งทางบก และทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) โดยมีการขุดคลองจากท่าเรือชินโจวไปทางเหนือถึงนครหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลกว่างซี เชื่อมต่อกับเส้นทางทางบกทางเหนือ และทางตะวันออกของจีน
"มีส่วนช่วยให้การส่งสินค้าของไทยเข้าจีน ผ่านมณฑลกว่างซีสะดวกขึ้น โดยเฉพาะทางเรือเข้าท่าเรือชินโจว ออกจากท่าเรือแหลมฉบัง ไปท่าเรือชินโจว เข้าคลองหนานหนิง กระจายสินค้าทางรถไฟและทางบกไปตะวันตก ทางเหนือ และภาคกลางของจีนรวมทั้งภาคตะวันออกได้เลย" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ระบุ
นอกจากนี้ ยังมีอีกข่าวดี คือขณะนี้มีการเตรียมปรับระบบบริหารจัดการที่ด่านสำคัญ 3 ด่าน ในมณฑลกว่างซี และพื้นที่ที่ติดกับตอนเหนือของเวียดนาม คือ ด่านโหย่วอี้กวน ตงซิง และด่านรถไฟผิงเสียง smart customs ระบบบริหารจัดการผ่านด่านศุลกากรอัจฉริยะ อาจเริ่มได้ช่วงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ มณฑลกว่างซี จะเป็นประตูสู่อาเซียน โดยมณฑลกว่างซี นำเข้าผลไม้จากประเทศไทยเป็นอันดับ 2 ของจีน รองจากมณฑลยูนนาน และมณฑลกว่างซี มีนักศึกษาจีนที่เรียนภาษาไทยมากที่สุด ปีละประมาณ 2,000 คน
"จะมีส่วนสำคัญ ช่วยให้การส่งสินค้าของไทยไปเวียดนาม ไปมณฑลกว่างซีสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลไม้สด จะร่นระยะเวลาได้ 2 เท่า สามารถทำให้ทั้ง 3 ด่าน เปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง เป็นข่าวดีสำหรับการส่งออกผลไม้ไทยไปตอนใต้ของจีนต่อไปในอนาคต" นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับภาพรวมมูลค่าการค้าไทย-จีน ในปี 2565 มีมูลค่า 3.69 ล้านล้านบาท โดยไทยส่งออกไปจีน 1.2 ล้านล้านบาท และเฉพาะไทยกับมณฑลกว่างซี มีมูลค่าการค้า 150,000 ล้านบาท ไทยส่งออกไปกว่างซี 75,000 ล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งออก ได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลไม้สด และอาหาร เป็นต้น