นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.65 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.65 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.61-34.72 บาท/ดอลลาร์ โดยอ่อนค่าเล็กน้อยในระหว่างวัน หลังจากที่จีน รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 2/66 ซึ่งออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
"ระหว่างวันเงินบาทแกว่งข้างและอ่อนค่าลงไปเล็กน้อย เช่นเดียวกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาค หลังจากที่ GDP ไตรมาส 2 ของ จีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด" นักบริหารเงินระบุ
ส่วนปัจจัยคืนนี้ ติดตามการรายงานดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนก.ค. จาก เฟดนิวยอร์ก ขณะที่การเมืองในประเทศกรณีโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 19 ก.ค.นี้ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อเนื่อง
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.80 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 138.14 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 138.53 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1219 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,528.77 จุด เพิ่มขึ้น 10.85 จุด (+0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 46,463 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 836.13 ลบ.(SET+MAI)
- คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมในวันที่ 19 ก.ค.66 เวลา 09.30 น. โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ
- รมว.คลังสหรัฐ แสดงความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับจีนในภาคส่วนต่างๆ ที่มีความสนใจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการปรับโครงสร้างหนี้
- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (17 ก.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตร
- เจพีมอร์แกนปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนสำหรับปี 2566 หลังจากเศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตราที่
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ BOK จะต้องบริหารจัดการเสถียรภาพทางการเงิน
- ผู้ว่าการธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) ส่งสัญญาณว่า การใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปนั้น ยังเป็นสิ่งจำเป็นต่อ
ภาพรวมเศรษฐกิจ และเห็นว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย พร้อมกันนี้ จะจับตาความเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำ
ให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เช่น ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ผลกระทบจากเอลนีโญที่มีต่ออุปทานอาหาร และการอ่อนค่าอย่างรวดเร็วของเงินเปโซ