นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า บริษัทน้ำมันรายใหญ่อย่างเอ็กซอน โมบิล คอร์ป และโรยัล ดัทช์ เชลล์ จะมีผลกำไรไตรมาสแรกปีนี้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่บริษัท บีพี ก็มีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากที่ราคาน้ำมันอยู่สูงกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาโดยตลอด รวมทั้งราคาแก็สเองก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เอ็กซอน โมบิล อาจจะทำรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นถึง 25% แตะ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรของเชลล์ มีแนวโน้มว่า จะเพิ่มขึ้น 4.9% แตะ 6.88 พันล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรของบีพีคาดว่า จะพุ่งขึ้น 32% แตะ 5.26 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันแตะระดับ 100 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ม.ค. และแตะระดับ 111.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาหลังจากที่เงินดอลลาร์อ่อนตัวลง ขณะที่ราคาแก็สธรรมชาติเพิ่มขึ้น 22% โดยหุ้นของบริษัททั้ง 3 รายนี้ร่วงลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อกำไรด้านการกลั่นจนแซงหน้ากำไรจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และยังต้องแข่งขันกับบริษัท โอเอโอ แก็สพร็อมของรัสเซีย ปิโตรไชน่าของจีน และปิโตรลีโอ บราซิลเลโร บีเอ ของบราซิล
เอ็ดเวิร์ด คอลลินส์ ผู้จัดการบริษัท นิว สตาร์ แอสเส็ท เมเนจเมนท์ กรุ๊ป กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าการคาดการณ์ครั้งนี้เกี่ยวพันกับราคาน้ำมัน สัดส่วนกำไรจากการกลั่นอ่อนตัวลงในรอบไตรมาส โดยเฉพาะในสหรัฐ
ด้านโฆษกของเชลล์กล่าวว่า บริษัทประเมินว่ากำไรจะอยู่ที่ 6.77 พันล้านดอลลาร์ ส่วนโฆษกบีพีกล่าวว่า ผลสำรวจนักวิเคราะห์ 22 รายคาดว่าจะอยู่ที่ 5.27 พันล้านดอลลาร์ แต่เอ็กซอน โมบิล ไม่ได้ตอบรับการติดต่อเพื่อขอความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--