นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวสุนทรพจน์ในการเปิดประชุมสุดยอดภาคธุรกิจไทย-สหรัฐ โดยเชื่อมั่นว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตถึง 6.5% ซึ่งสูงกว่าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเซีย(ADB) คาดการณ์ไว้ที่ 5% เท่านั้น เนื่องจากสัญญาณเศรษฐกิจต่างๆ ยังเป็นเชิงบวก และปัจจัยต่างๆ ยังอยู่ในภาวะที่ทางการควบคุมได้
"เราเชื่อมั่นว่าอัตราการเติบโตปีนี้จะสูงถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ เพราะสัญาณทางเศรษฐกิจต่างๆ ยังคงเป็นเชิงบวก และสามารถควบคุมได้" นายสมัคร กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูงช่วยให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะเดียวกันการแก้ปัญหาหนี้เสียและอัตราเงินเฟ้อเป็นปัจจัยที่ทางการสามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ประเทศยังกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตย และมีแผนจะเร่งพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป
แต่ยอมรับว่ายังมีปัจจัยลบอีกหลายเรื่องที่ทุกประเทศต้องเผชิญหน้า เช่น ราคาน้ำมันและอาหารปรับตัวสูงขึ้น ส่วนปัญหาซับไพร์มนั้นรัฐบาลพยายามหามาตรการรองรับเพื่อควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
นายสมัคร กล่าวว่า รัฐบาลพยายามหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพื่อต่อสู้กับภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจโลก และคงสถานะเรื่องขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ผลักดันการลงทุนในโครงการรถไฟรางคู่, โครงการเอสเอ็มแอล เป็นต้น
"เราสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดในประเทศ และเรายังคงเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเราได้ยกเลิกการควบคุมเงินทุน และเราจะไม่เพิ่มข้อจำกัดในการถือครองหุ้นของชาวต่างชาติในบริษัทต่างๆ" นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร ยังหวังว่า การลงทุนจากสหรัฐจะมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจของไทย แม้จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงไปบ้าง แต่ก็สามารถนำประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ซึ่งเป็นการพิสูจน์แล้วว่าการก้าวถอยหลังเพียงเล็กน้อย สามารถนำไปสู่การก้าวกระโดดไปข้างหน้าได้
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--