นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ แต่คาดว่าหลังจากนั้นเฟดจะหยุดพักการลดอัตราดอกเบี้ยชั่วระยะหนึ่ง เนื่องจากราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
จอห์น ซิลเวีย นักวิเคราะห์จากธนาคารวาโชเวียกล่าวว่า "เบน เบอร์นันเก้ และคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดกำลังพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวต่อไปได้ ควบคู่ไปกับการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ที่น่ากังวลก็คือว่าการที่เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น อาจกลายเป็นการเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"สถานการณ์ดังกล่าวนับว่าท้าทายความสามารถของเฟดเป็นอย่างยิ่ง ส่วนในการประชุมสัปดาห์นี้เราคาดว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.25% " ซิลเวียกล่าว
เกร็ก แมคบริด นักวิเคราะห์จาก Bankrate.com คาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำไปจนถึงปลายปีนี้และอาจจะถึงต้นปีหน้า ตราบใดที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง
"เฟดอยู่ในระยะที่ต้องชั่งใจว่าจะใช้มาตรการใดจึงจะกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการสกัดกั้นเงินเฟ้อ เราจึงคาดว่าเฟดจะหยุดพักการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังการประชุมในสัปดาห์นี้ และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำไว้นานกว่าที่คาดการณ์ไว้" แมคบริดกล่าว สำนักข่าวเอพีรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--