BAY ให้กรอบบาทสัปดาห์นี้ 34.00-34.80 รอผลประชุม FED-ECB-BOJ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday July 24, 2023 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 34.00-34.80 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 34.40 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายผันผวนในช่วง 33.75-34.72 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ตลาดปรับสถานะการลงทุน ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯที่ร่วงลง บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งสะท้อนว่าผู้ร่วมตลาดลดทอนความคาดหวังเกี่ยวกับความเร็วที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 67 ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 17 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 14,668 ล้านบาท

สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ระบุว่า คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 25bp สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. ซึ่งเรามองว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย แม้เฟดอาจจะยังไม่ส่งสัญญาณยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นในครั้งนี้ เพื่อรอข้อมูลจนกว่าจะแน่ใจว่าเงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ท่าทีดังกล่าวอาจหนุนค่าเงินดอลลาร์เพียงชั่วคราวเท่านั้น ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขการใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. โดยเราประเมินว่าภาวะ Soft landing ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ควบคู่ไปกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อจะเป็นฉากทัศน์ที่เป็นลบที่สุดสำหรับเงินดอลลาร์

นอกจากนี้ คาดว่าอีซีบีจะขึ้นดอกเบี้ย 25bp เป็น 3.75% ในวันที่ 27 ก.ค. ส่วนผลประชุมบีโอเจในวันที่ 28 ก.ค.นักลงทุนคาดว่าจะคงนโยบายตามเดิม อนึ่ง เรามองว่าการดิ่งลงของค่าเงินเยนท้ายสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ความเสี่ยงของเงินเยนเบ้ไปทางด้านแข็งค่ากรณีบีโอเจสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับมาตรการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve control)

สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่ายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยมองว่าเงินเฟ้ออาจกลับมาสูงขึ้นในระยะถัดไป และควรมีการสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย(policy space) ทั้งนี้ ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกจะขยายตัว 2.9% และครึ่งปีหลังจะเติบโตในอัตรา 4.2% โดยในมุมมองของ ธปท.เห็นว่านโยบายต้องให้น้ำหนักหลักไปที่การรักษาเสถียรภาพมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อไป เราคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเมืองในประเทศ จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนกระแสเงินทุนเต่างชาติในระยะนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ