ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานมีมติให้นำข้าวในสต็อกของรัฐบาลที่มีอยู่ 2.155 ล้านตัน มาจัดทำเป็นข้าวถุงราคาถูกเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน โดยจะเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันพรุ่งนี้(29 เม.ย.)
ทั้งนี้ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.)เพื่อขอความเห็นชอบในหลักการให้องค์กรคลังสินค้า(อคส.)ทยอยข้าวในสต็อกของรัฐบาลมาทำเป็นข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกเพื่อช่วยเหลือประชาชน หลังจากนั้นจึงค่อยจัดหาข้าวสารเข้ามาทดแทนให้ครบเต็มจำนวน
สำหรับปริมาณข้าวในสต็อกของรัฐบาลจำนวน 2.155 ล้านตัน ประกอบด้วย ข้าวสารจำนวน 2.048 ล้านตัน และข้าวเปลือกอีกจำนวน 0.185 ล้านตัน หรือ 0.107 ล้านตันข้าวสาร ขณะที่ในประเทศต้องการข้าวเพื่อบริโภคปีละประมาณ 6.6 ล้านตันข้าวสาร
แหล่งข่าวจากที่ประชุม คชก. เปิดเผยว่า ที่ประชุมไม่กล้าอนุมัติงบประมาณให้ อคส.ไปจัดทำข้าวถุงราคาถูก เนื่องจากเกรงว่าจะผิดกฎหมายเหมือนกรณีที่อนุมัติให้นำเงินไปใช้ในโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา และขณะนี้กองทุนของ คชก.ก็ติดลบอยู่กว่า 1.7 พันล้านบาท
"มีการยกตัวอย่างเรื่องที่ คตส.กล่าวโทษคณะกรรมการ คชก.ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อนุมัติเงิน คชก.กรณีของกล้ายางมาอภิปราย เพราะเกรงว่าอาจจะผิดกฎหมาย โดยขอให้ฝ่ายเลขานุการไปพิจารณาใช้เงินส่วนอื่น เนื่องจาก คชก.มีหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรเท่านั้น" แหล่งข่าว กล่าว
ด้านนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการกลางกลุ่มเกษตรกรแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมเป็นหนึ่งใน คชก.กล่าวว่า คชก.มีหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรในการเข้าไปรับจำนำสินค้าเกษตร ไม่ได้มีหน้าที่ไปอนุมัติเงินเพื่อใช้ในการบรรจุสินค้าขาย จึงจะต้องระวังว่าอาจจะทำผิดกฎหมาย
"หากมาขอเงินเพื่อนำไปจัดทำข้าวถุงถือว่าไม่เหมาะสม เนื่องจาก คชก.ได้รับงบประมาณปีละ 2,000 ล้านบาท บางครั้งก็ต้องจ่ายหนี้สูญ 10,000 ล้านบาท และ คชก.ยังเป็นหนี้ ธ.ก.ส.กว่า 2-3 หมื่นล้านบาท บางครั้งก็มาขอขยายระยะเวลาในการรับจำนำจนไม่มีเงินแล้ว" นายอุบลศักดิ์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย รบฦ3/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--