นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ 88,826 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.22% จากเดือน มิ.ย. 65 เนื่องจากการผลิตรถยนต์นั่ง และรถ PPV เพื่อส่งออกเพิ่มขึ้น 27.57% และ 96.51% ตามลำดับ จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย และโอเชียเนีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ มูลค่าการส่งออก 55,925.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.72% จากเดือนมิ.ย. 65
ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 (ม.ค.-มิ.ย. 66) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งสิ้น 528,816 คัน เพิ่มขึ้น 17.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีมูลค่าการส่งออก 329,181.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในเดือนมิ.ย. 66 มีจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ทั้งสิ้น 145,557 คัน เพิ่มขึ้น 1.78% จากเดือนมิ.ย. 65 เนื่องจากการผลิตขายในประเทศลดลง 2.01% แต่ลดลงจากเดือนพ.ค. 66 ที่ 3.30% ทั้งนี้ แบ่งเป็นการผลิตเพื่อส่งออก 84,909 คัน และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 60,648 คัน ส่งผลให้จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มีจำนวนทั้งสิ้น 921,512 คัน เพิ่มขึ้น 5.91% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ในเดือนมิ.ย. 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 64,440 คัน ลดลง 1.04% จากเดือนพ.ค. 66 และลดลง 5.16% จากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว เนื่องจากการเข้มงวดของสถาบันการเงิน ในการอนุมัติสินเชื่อจากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.6% ของ GDP ประเทศ ส่งผลให้ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มียอดขายรถยนต์รวม 406,131 คัน ลดลง 4.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- BEV
เดือนมิ.ย. 66 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 9,680 คัน เพิ่มขึ้น 496.43% จากเดือนมิ.ย. 65 ส่งผลให้ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มี BEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 43,045 คัน เพิ่มขึ้น 487.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- HEV
เดือนมิ.ย. 66 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 7,493 คัน เพิ่มขึ้น 33.21% จากเดือนมิ.ย. 65 ส่งผลให้ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มี HEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 46,140 คัน เพิ่มขึ้น 41.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- PHEV
เดือนมิ.ย. 66 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่จำนวน 1,075 คัน ลดลง 0.92% จากเดือนมิ.ย. 65 ส่งผลให้ครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 66) มี PHEV จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน 6,272 คัน เพิ่มขึ้น 5.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
"มาตรการ EV ถ้าไม่ต่อออกไป ก็อาจทำให้ยอดนำเข้า EV ขาดการต่อเนื่อง และเกิดความไม่เชื่อมั่นของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าถ้ามีการตั้งรัฐบาลแล้ว จะมีการอนุมัติตามข้อเสนอของบอร์ด EV เพราะไทยมีความจำเป็นต้องได้รับเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ที่ขาดมานานแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และเศรษฐกิจเติบโตต่อไป" นายสุรพงษ์ กล่าว