นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.50/52 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า เล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.47 บาท/ดอลลาร์
ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ โดย low สุดที่ระดับ 34.47 บาท/ดอลลาร์ และ high สุดที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเงินบาทได้ปรับขึ้นไปช่วงที่มีข่าวเลื่อนประชุมรัฐสภาเพื่อโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปจากวันที่ 27 ก.ค. แต่เป็นการพุ่งขึ้น ในจังหวะสั้นๆ เท่านั้น เพราะนักลงทุนให้ความสนใจกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์นี้มากกว่า
"บาทวันนี้ยังแกว่งแคบๆ แต่มีช่วงสั้นๆ เท่านั้น ที่พุ่งขึ้นไปตอนที่รับข่าวเลื่อนโหวตนายกฯ นักลงทุนรอประเด็นเฟดมากกว่า คาดว่ารอบนี้คงขึ้นอีก 0.25% และน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายของขาขึ้นดอกเบี้ย" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.40 - 34.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 141.36/41 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 141.41 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1041/1045 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1072 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,526.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.49 จุด (+0.16%) มูลค่าการซื้อขาย 42,461 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 356.44 ลบ.(SET+MAI)
- การประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ ได้เลื่อนออกไปก่อน โดยมีการระบุถึงสาเหตุว่า เนื่องจากการทำงานที่ได้รับ
- ประธานรัฐสภา สั่งงดการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป 3 ฝ่าย) ที่นัดประชุมในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) และการ
- ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เผยหลังได้รับคำร้องจากผู้ตรวจการแผ่นดิน คาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้องของ
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ 88,826
- ส.อ.ท. ปรับประมาณการผลิตปี 66 เหลือ 1.90 ล้านคัน หรือลดลงจากเดิม 2.56% (1.95 ล้านคัน) หลังรถ EV แย่ง
- สมาคมทองคำจีน (CGA) เผย ปริมาณการใช้ทองคำของจีนในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นกว่า 16% แตะที่
- ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนี ลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า เส้นทางสู่การฟื้นตัวของ
- ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase
- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) พร้อมที่จะกลับมาดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินอีกครั้ง เนื่องจากเงินเฟ้อยังคง
อยู่ในระดับที่สูงมาก โดยตั้งเป้าที่จะฉุดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2-4% ในปีนี้ ขณะที่ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์อยู่
ที่ระดับ 5.4% ในเดือนมิ.ย.