รัฐบาลประยุทธ์ชูผลงานโครงข่ายรถไฟฟ้า พร้อมส่งต่อแผน M-MAP 2 รวม 33 เส้นทาง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday July 28, 2023 17:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยในส่วนของโครงข่ายรถไฟฟ้า ได้ผลักดันให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ตามแผน M-MAP เดิมส่งผลให้ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เปิดให้บริการแล้ว 242.34 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 105.40 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตามด้วยสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนที่เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำแผนแม่บทโครงข่ายรถไฟฟ้าฉบับใหม่ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรมการขนส่งทางรางได้รายงานผลการดำเนินการ "โครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2"หรือ M-MAP 2 เพื่อต่อยอดแผน M-MAP เดิม ให้มีความครอบคลุม สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเมืองในอนาคต และตอบสนองความต้องการในการเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับแผนการพัฒนา M-MAP 2 นี้มีทั้งสิ้น 33 เส้นทาง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

1.เส้นทาง M-MAP 1 ที่ยังไม่ดำเนินการมีจำนวน 8 เส้นทาง

2. ส่วนเส้นทางใหม่จำนวน 14 เส้นทาง

3. เสนอต่อขยาย จำนวน 11 เส้นทาง

ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญแผนการพัฒนา M-MAP 2 สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

A1 : เส้นทางที่มีความจำเป็น / มีความพร้อม "ดำเนินการทันที" จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่

1) รถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต ? ธรรมศาสตร์ (Commuter)

2) รถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน ? ศาลายา (Commuter)

3) รถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน ? ศิริราช (Commuter)

4) รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แคราย ? บึงกุ่ม (Light Rail)

A2 : เส้นทางที่มีความจำเป็น / แต่ต้องเตรียมความพร้อมก่อน "คาดว่าดำเนินการภายในปีพ.ศ. 2572" จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่

1) รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ ? หัวลำโพง (Commuter)

2) รถไฟฟ้าสายสีเขียว สนามกีฬาแห่งชาติ ? ยศเส (Heavy Rail)

3) รถไฟฟ้าสายสีเขียว บางหว้า ? ตลิ่งชัน (Heavy Rail)

4) รถไฟฟ้าสายสีแดง วงเวียนใหญ่ ? บางบอน (Commuter)

5) รถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา ? สุวรรณภูมิ (Light Rail)

6) รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล ? ทองหล่อ (Light Rail)

B : เส้นทางมีศักยภาพ เนื่องจากผ่านการศึกษาความคุ้มค่าในโครงการ M-MAP 1 หรือเป็นเส้นทางใหม่ที่มีปริมาณผู้โดยสารถึงเกณฑ์ที่จะพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าได้ จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่

1) รถไฟฟ้าสายสีฟ้า พระโขนง ? ท่าพระ (Light Rail)

2) รถไฟฟ้าสายสีฟ้า สาทร ? ดินแดง (Light Rail)

3) รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล ? ลำลูกกา (Light Rail)

4) รถไฟฟ้าสายสีเขียว คูคต? วงแหวนรอบนอก (Heavy Rail)

5) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตลิ่งชัน - รัตนาธิเบศร์ (Heavy Rail)

6) รถไฟฟ้าสายสีเขียว สมุทรปราการ ? บางปู (Heavy Rail)

7) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางแค ? พุทธมณฑล สาย 4 (Heavy Rail)

8) รถไฟฟ้าสายสีแดง บางบอน ? มหาชัย ? ปากท่อ (Commuter)

9) รถไฟฟ้าสายสีแดง หัวลำโพง ? วงเวียนใหญ่ (Commuter)

C : เส้นทาง Feeder ดำเนินการเป็นระบบ Feeder เช่น Tram ล้อยาง, รถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 26 เส้นทาง ได้แก่

1) เส้นทาง ลาดพร้าว ? รัชโยธิน ? ท่าน้ำนนท์

2) เส้นทาง ดอนเมือง ? ศรีสมาน

3) เส้นทาง ศาลายา ? มหาชัย

4) เส้นทาง ศรีนครินทร์ ? บางบ่อ

5) เส้นทาง คลอง 6 ? องค์รักษ์

6) เส้นทาง รัตนาธิเบศร์ ? แยกปากเกร็ด

7) เส้นทาง คลองสาน - ศิริราช

8) เส้นทาง บางซื่อ ? พระราม 3

9) เส้นทาง ราชพฤกษ์ ? แคราย

10) เส้นทาง พระโขนง ? ศรีนครินทร์

11) เส้นทาง บางซื่อ ? ปทุมธานี

12) เส้นทาง เมืองทอง ? ปทุมธานี

13) เส้นทาง บางแค ? สำโรง

14) เส้นทาง แพรกษา ? ตำหรุ

15) เส้นทาง ธรรมศาสตร์ ? นวนคร

16) เส้นทาง บางนา ? ช่องนนทรี

17) เส้นทางสุวรรณภูมิ ? บางบ่อ

18) เส้นทาง บรมราชชนนี - ดินแดง ? หลักสี่

19) เส้นทาง ธัญบุรี? ธรรมศาสตร์

20) เส้นทาง คลอง 3 ? คูคต

21) เส้นทาง มีนบุรี - สุวรรณภูมิ ? แพรกษา - สุขุมวิท

22) เส้นทาง เทพารักษ์ ? สมุทรปราการ

23) เส้นทาง บางใหญ่ ? บางบัวทอง

24) เส้นทาง บางปู - จักรีนฤบดินทร์

25) เส้นทาง ครุใน ? สมุทรปราการ

26) เส้นทาง ปทุมธานี? ธัญบุรี

"การทำแผนพัฒนานี้ก็เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมให้ข้อคิดเห็นกับแผนพัฒนานี้ด้วย จะเห็นได้ว่า ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งมั่นพัฒนาชาติสู่ความเจริญทุกรูปแบบ ผลักดันแผนแม่บทรถไฟฟ้า M-MAP 2 เพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต ยกระดับการเดินทางของประชาชนผ่านระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวก ทันสมัยมากขึ้น ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว อีกทั้งจะช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน"น.ส.ทิพานัน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ