Krungthai COMPASS ประเมินว่า วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นรอบนี้แตะระดับ 2.5% โดยคาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้นสู่ 2.5% ซึ่งคาดว่าจะเป็นระดับสูงสุดของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น (Terminal rate) ในรอบนี้
ทั้งนี้ สะท้อนจากมุมมองของ กนง. ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องทั้งในปี 66 และ 67 และอัตราเงินเฟ้อจะทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่า 2% ทำให้มองว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูงกว่า 2.25% ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวก
นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อยังมีความเสี่ยงด้านสูงจากต้นทุนราคาอาหารที่อาจปรับเพิ่มขึ้น หากปรากฎการณ์เอลนีโญรุนแรง และราคาอาหารโลกที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของไทยอย่างมีนัย อย่างไรก็ตาม การประชุม กนง. ในครั้งหน้าขึ้นอยู่กับทิศทางเศรษฐกิจและความชัดเจนทางการเมือง
การประชุม กนง. เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 66 มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.00% เป็น 2.25% ต่อปี สูงสุดในรอบ 9 ปี โดยในการประชุมครั้งที่ 4/66 โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องเข้าสู่ระดับศักยภาพ
2. อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงจากราคาในหมวดพลังงาน มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ และผลของฐานที่สูงในปีก่อนหน้า
3. มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมาตรการเฉพาะจุดและการแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืนสำหรับกลุ่มเปราะบาง
4. ภาวะการเงินโดยรวมผ่อนคลายลดลง แต่ยังเอื้อต่อการระดมทุนของภาคเอกชน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ