แฟรงค์ กง หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำประเทศจีนของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะประกาศขึ้นค่าเงินหยวนประมาณ 10-15% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพราะต้องการควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้สูงขึ้น หลังจากที่เงินเฟ้อของจีนอยู่ใกล้ระดับสูงในรอบ 11 ปี
ที่ผ่านมานั้น สกุลเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นประมาณ 16% นับตั้งแต่จีนประกาศขึ้นค่าเงินหยวน 2.1% เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2547 ไม่สามารถช่วยจีนให้ควบคุมราคานำเข้าได้ แต่กลับดึงดูดกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ให้เข้ามาเก็งกำไรค่าเงินหยวน ซึ่งส่งผลให้จีนเผชิญสภาพคล่องส่วนเกินในระบบเศรษฐกิจ
"เนื่องจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และราคาทรัพยากรทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลจีนจึงต้องระมัดระวังในการใช้มาตรการต่อไป ผมคาดว่ารัฐบาลจะประกาศขึ้นค่าเงินหยวนเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่ผลกระทบด้านลบที่จะตามมาคือเม็ดเงินเก็งกำไรที่จะไหลบ่าเข้ามาในประเทศ" นักวิเคราะห์เจพีมอร์แกนกล่าว
รัฐบาลจีนเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะปล่อยให้สกุลเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งสกุลเงินหยวนก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่จีนประกาศยกเลิกระบบผูกติดค่าเงินหยวนกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ช่วงขาขึ้นของเงินหยวนหยุดชะงักลงเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากจีนประกาศทบทวนนโยบายสกัดกั้นความแข็งแกร่งของเงินหยวนหลังจากยอดส่งออกทรุดตัวลงและมีเม็ดเงินเก็งกำไรไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9.47 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ ค่าเงินหยวนมีการซื้อขายที่ 6.9960 ดอลลาร์/หยวน เมื่อเทียบกับวานนี้ที่ 7.0014 ดอลลาร์/หยวน
เศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นกว่า 10% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นสถิติการขยายตัวสูงกว่าระดับ 10% ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 9 ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนมี.ค.ขยายตัวขึ้น 8.3% เกือบแตะระดับสุงสุดในรอบ 11 ปี
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--