บริษัท รอยัล ดัทช์ เชลล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่สุดของยุโรป เปิดเผยว่า กำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 25% เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากราคน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ รายได้สุทธิไตรมาสแรกของรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้นแตะระดับ 9.08 พันล้านดอลลาร์ จากปีที่แล้วที่ระดับ 7.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นแตะระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 ม.ค.และทะยานขึ้นแตะ 118 ดอลลาร์/บาร์เรลเนื่องจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้กระตุ้นนักลงทุนให้ทุ่มซื้อสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคับคั่ง และเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 119.93 ดอลลาร์
เดิร์ค ฮูเซมานส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทโรเบโก กรุ๊ป กล่าวว่า "ผลประกอบการของเชลล์ปรับตัวตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแตะระดับสูงสุด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงทำให้ต้นทุนการกลั่นน้ำมันของบริษัทสูงขึ้นด้วย แต่ผลประกอบการที่แผนกสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซ จะช่วยชดเชยกำไรการกลั่นที่ร่วงลง"
ราคาหุ้นเชลล์ในตลาดหุ้นลอนดอนร่วงลง 18% ในไตรมาสแรก ซึ่งทรุดตัวลงมากกว่าราคาหุ้นบีพีและเอ็กซอน โมบิล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--