นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของโลก อาจรายงานผลประกอบการขาดทุนเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันในวันพรุ่งนี้ ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นายเคิร์ก เคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์ให้จีเอ็มสามารถฝ่าวิกฤตขาดทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากำลังแสดงความสนใจเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ 15 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า จีเอ็มอาจรายงานตัวเลขขาดทุนช่วงไตรมาสแรกเป็นมูลค่า 1.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น หลังจากที่บริษัทสามารถทำกำไรได้ 17 เซนต์ต่อหุ้นเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีรายได้สุทธิที่ 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ 11 เซนต์ต่อหุ้น
ทั้งนี้ นายเคอร์โคเรียน มหาเศรษฐีด้านการลงทุนได้เทขายหุ้นจีเอ็มในปี 2549 ทันทีที่บริษัทปฎิเสธเป็นพันธมิตรกับค่ายเรอโนลต์ เอสเอ โดยเจ้าตัวออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เขาจะทุ่มเงินลงทุน 861 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อหุ้นฟอร์ดในสัดส่วน 5.7% หลังจากที่ฟอร์ดสามารถทำกำไรได้ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยในปีนี้หุ้นของจีเอ็มร่วงลง 12% ขณะที่ริก วาโกเนอร์ ซีอีโอวัย 55 ปีของจีเอ็มยังไม่สามารถหากลยุทธ์ที่จะทำให้นักลงทุนหันกลับมาซื้อหุ้นในจีเอ็มได้ หลังจากบริษัทได้รับผลกระทบจากข่าวคนงานที่โรงงานประกอบล้อรถใหญ่ที่สุดของจีเอ็มผละงานประท้วง และจากผลพวงการขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองของบริษัท GMAC LLC ที่ฉุดตัวเลขผลกำไรที่ได้จากการปรับลดต้นทุนแรงงานของบริษัท
"ข่าวดีของฟอร์ดในขณะนี้ส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อจีเอ็ม" แดน พูล รองประธานอาวุโสของบริษัทวิจัยเนชั่นเนล ซิตี้ คอร์ปกล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--