ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.05 ระหว่างวัน sideway จับตาตัวเลขศก.สหรัฐคืนนี้-สัญญาณดอกเบี้ยเฟด-รอครม.ใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 23, 2023 17:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.05 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.02 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.88 - 35.06 บาท/ดอลลาร์ โดยทิศทางเงินบาทในช่วงนี้ยังเป็น sideway คืน นี้ ตลาดรอดูการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.ของสหรัฐ ซึ่งหากตัวเลขออกมาดี กว่าที่ตลาดคาด ดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น และส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าได้

ปัจจัยในประเทศ ช่วงนี้หลังได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ชัดเจนแล้ว ยังต้องรอดูจากฟอร์มรัฐบาล การจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีในแต่ ละกระทรวง และนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

ช่วงปลายสัปดาห์นี้ ตลาดรอติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในที่ ประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็กสัน โฮล ช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อดูว่าจะส่งสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90 - 35.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 145.42 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 145.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0811 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0855 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ 1,549.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.41 จุด (+0.22%) มูลค่าซื้อขาย 75,837.78 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 22.60 ลบ.(SET+MAI)
  • นายเศรษฐา ทวีสิน ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของไทย เตรียมเข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
นายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ในเวลา 18.00 น.
  • ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เตรียมเข้าหารือกับรัฐบาลใหม่ ให้ช่วยส่งเสริมและเดินหน้านโยบายขับเคลื่อน
ตลาดทุนร่วมกัน โดยจะนำเสนอ 1. การส่งเสริมตลาดทุน เพื่อให้เป็นกลไลสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 2. การแก้ไขกฎเกณฑ์ และ
กฎหมายให้สอดคล้องกับ Digital Government เพื่อทำให้การอนุมัติ การอนุญาต การติดต่อราชการเป็นไปด้วยความสะดวก รวมถึงปรับ
กฎเกณฑ์ เพื่อทำให้ตลาดทุนไทยพัฒนาไปข้างหน้าได้
  • ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้ว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยในปีนี้เติบโตมากขึ้น โดย
เฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวและภาคการบริการ รวมถึงการบริโภคในประเทศ แต่การส่งออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญรวมทั้งเศรษฐกิจหลายประเทศ
ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะถดถอย จึงคาดว่าในปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ต่ำกว่า 3% เพียงเล็กน้อย
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้เศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกที่เข้ามาส่งผล
กระทบ ประกอบกับปัจจัยสำคัญจากภายในประเทศ คือ ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงระดับ 90.6% ของ GDP ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ฉุดกำลังซื้อใน
ประเทศ อย่างไรก็ดี มองว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังถือว่าฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
  • บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ประกาศว่า จะเสนอกฎใหม่ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ เพื่อที่จะปรับ
ปรุงกระบวนการเตรียมการของธนาคารระดับภูมิภาคขนาดใหญ่ เพื่อรับมือกับความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นข้อ โดยเสนอดังกล่าวกำหนดให้
ธนาคารที่มีทรัพย์สินมูลค่าตั้งแต่ 1 แสนล้านดอลลาร์ขึ้นไป ต้องออกตราสารหนี้ระยะยาว ซึ่งอาจช่วยรองรับการขาดทุนของธนาคาร ก่อนที่
จะส่งผลกระทบต่อผู้ฝากเงิน และกองทุนประกันเงินฝากของ FDIC
  • คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้น

เดือนส.ค และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ