นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.10 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาด เมื่อเช้าที่ระดับ 35.05 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00 - 35.19 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทอ่อนค่า เนื่องจากตัวเลขดุลการค้าของไทยออกมาแย่กว่าคาด ประกอบกับระหว่างวันอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ยังขึ้นต่อเนื่อง ในส่วนของสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวค่อนข้างไร้ทิศทาง ภาพใหญ่ตลาดรอถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุม Jackson Hole คืนนี้
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันจันทร์ไว้ที่ 34.95 - 35.25 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 146.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 146.15 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0792 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0789 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,560.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด (+0.18%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,602.42 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อขายสุทธิ 339.99 ลบ. (SET+MAI)
- ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนก.ค. 66 ว่า มูลค่าการส่งออกของไทยยังคงหด
ตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ลดลง 6.2% จากเดือนเดียวกันปีก่อน จากตลาดคาด -2.8% ถึง -3.1% ส่วนการนำเข้า ลดลง 11.1%
จากเดือนเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ในเดือนก.ค. 66 ไทยขาดดุลการค้า 1,977.8 ล้านดอลลาร์ โดยพาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปีนี้ 1-2%
ถือเป็น สวนทางกับเอกชนที่มองว่าจะติดลบ 1%
- สภาผู้ส่งออก มองว่า การส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 4/66 มีโอกาสสูงที่จะพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ เนื่องจาก
ปัญหาขาดแคลนชิปในการผลิตรถยนต์คลี่คลาย และปัญหาการบริหารจัดการการส่งออกสินค้าที่ท่าเรือกลับมาเรียบร้อยดี ส่งผลให้ยอดส่งออก
รถยนต์ในเดือนก.ค. อยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ มีความเห็นที่สอดคล้องเช่นกันว่า ส่งออกในไตรมาส 4/66 จะพลิกกลับมา
เป็นบวก
- นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดโควตาตำแหน่งรัฐมนตรีว่า มีความเป็นรูปร่างมากขึ้นแล้ว ขอให้อดใจรออีก
3-4 วัน คาดว่าน่าจะจบได้ ซึ่งต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เนื่องจากมีหลายพรรค อย่างไรก็ดี เฉพาะในส่วนของพรรคเพื่อไทย
ถือว่าลงตัวเรียบร้อยแล้ว และรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีความชัดเจนในอีกไม่กี่วันนี้ พร้อมยืนยันว่าตำแหน่ง รมว.คลังนั้น จะอยู่กับ
พรรคเพื่อไทย
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยกับสื่อว่า คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยอีกแล้ว แต่ขณะนี้ก็ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าเฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยลงได้เมื่อไร
- ทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ เตือนว่า ผลกระทบของวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน อาจจะลุกลามไปยัง
ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย อีกทั้งจะทำให้รายได้และผลตอบแทนในภูมิภาคเอเชียลดลง
- รัฐบาลจีน เพิ่มความพยายามในการพลิกฟื้นตลาดหุ้นที่กำลังเผชิญกับความเปราะบาง โดยเรียกร้องให้สถาบันการเงินซึ่ง
รวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญ, ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และบริษัทประกันภัย เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น
- ตัวเลขเงินเฟ้อในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ชะลอตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนส.ค. แต่ก็ยังคงสูงกว่า
เป้าหมาย 2% ที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะกดดันให้คณะกรรมการ BOJ ยุติการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
พิเศษ (Ultra-easy Policy)