คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) และคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) เสนอให้กระทรวงพาณิชย์นำข้าวในสต็อกของรัฐบาลจำนวน 2.1 ล้านตัน มาบรรจุถุงขนาด 5 กิโลกรัมชื่อ "ข้าวสารธงฟ้ามหาชน" เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนในราคาถูก หวังลดผลกระทบจากปัญหาข้าวถุงในท้องตลาดมีราคาแพง
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดกรอบเวลาที่จะนำข้าวดังกล่าวออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนในช่วงเดือน พ.ค.-ธ.ค.นี้ โดยคณะอนุกรรมการชุดพิเศษจะกำหนดปริมาณให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องทำโครงการนี้ให้ครบตามเวลาที่กำหนดไว้หากสถานการณ์ข้าวในประเทศเริ่มคลี่คลาย เช่น ราคาถูกลง
ทั้งนี้ รัฐบาลจะกำหนดให้ราคาข้าวสารธงฟ้ามหาชนถูกกว่าท้องตลาดราว 20% ซึ่งจะมีข้าวหลายชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ 100%, ข้าวหอมจังหวัด, ข้าวหอมปทุมธานี, ข้าวขาว 5%, ข้าวขาว 10%, ข้าวขาว 15% และ ข้าวขาว 25% โดยจะจัดจำหน่ายผ่านกลไกของรัฐ เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด การค้าภายในจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ซึ่งหลังจากรัฐบาลนำข้าวในสต็อกออกมาแล้วจะซื้อกลับคืนเพื่อให้มีสต็อกคงอยู่ที่ 2 ล้านตันเท่าเดิม
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน คาดว่า จะสามารถนำข้าวสารธงฟ้ามหาชนออกจำหน่ายให้แก่ประชาชนได้ภายใน 2 สัปดาห์ โดย ครม.มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ไปตั้งคณะอนุกรรมการชุดพิเศษขึ้นมาเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อกำหนดปริมาณ ราคาและ ประเภทข้าวที่จะนำออกจำหน่าย ตลอดจนการจัดซื้อข้าวใหม่กลับคืนสต็อกตามเดิม ซึ่งคณะอนุกรรมการดังกล่าวจะเริ่มประชุมครั้งแรกในวันพรุ่งนี้(30 เม.ย.)
เบื้องต้นคาดว่า ราคาข้าวขาว 5% จะอยู่ที่ถุงละ 170 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิจะสูงกว่านี้เล็กน้อย
สำหรับงบประมาณที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการครั้งนี้มาจากเงินทุนหมุนเวียนขององค์การคลังสินค้า(อคส.) ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการเสนอให้ของบจาก คชก. แต่ไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการนำเงินไปใช้ในกิจการอื่นที่ไม่เป็นไปตามอำนาจและหน้าที่ของ คชก.
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--