นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้เข้าร่วมพิธีลงนามพิธีสารปรับปรุงความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจัดขึ้นในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 55 ณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถือเป็นความสำเร็จของการเจรจาปรับปรุงหรืออัปเกรดความตกลง AANZFTA ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2553
นายเอกฉัตร กล่าวว่า อาเซียน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ตกลงเริ่มเจรจาอัปเกรดความตกลง AANZFTA เมื่อปี 2563 เพื่อปรับปรุงความตกลงให้ทันสมัยกับรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนไป และได้สรุปผลการเจรจาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 โดยใช้เวลาในการเจรจาเกือบ 3 ปี ซึ่งความตกลงฉบับปรับปรุง ได้เพิ่มประเด็นการค้าใหม่ๆ อาทิ การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย และการค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งปรับข้อบทของความตกลงในเรื่องต่างๆ เช่น การค้าสินค้า กฎถิ่นกำเนิดสินค้า การแข่งขันทางการค้า และการเพิ่มภาคผนวกบริการด้านการศึกษาและบริการวิชาชีพ เป็นต้น
"ความตกลง AANZFTA ครั้งนี้ จะช่วยขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน และเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานการผลิตระหว่างกัน" รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุ
รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า ความตกลง AANZFTA จะมีผลใช้บังคับในปี 2567 เมื่อสมาชิกทั้งหมดได้ลงนามและให้สัตยาบันครบถ้วน ในส่วนของไทยเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์ ยังไม่ได้ร่วมลงนามในครั้งนี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พิจารณา โดยกระทรวงพาณิชย์เตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พิจารณาเรื่องการลงนามและการให้สัตยาบันความตกลงฉบับนี้
อย่างไรก็ดี ยังมีสมาชิกอาเซียนอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา สปป.ลาว และเมียนมา ที่ยังดำเนินกระบวนการภายในไม่เสร็จสิ้น และจะลงนามพิธีสารภายหลังเช่นกัน
ทั้งนี้ ในปี 2565 การค้าระหว่างไทย-ออสเตรเลีย มีมูลค่า 18,315.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2566) มีมูลค่า 11,501 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย มูลค่า 6,435.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย มูลค่า 5,065.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีเครื่องประดับ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และสินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์
สำหรับการค้าระหว่างไทย-นิวซีแลนด์ ในปี 2565 มีมูลค่า 2,845.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2566) มีมูลค่า 1,353.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปนิวซีแลนด์ มูลค่า 814.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากนิวซีแลนด์ มูลค่า 539 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และหม้อแปลงไฟฟ้า และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ นมและผลิตภัณฑ์นม ผัก ผลไม้และของปรุงแต่งที่ทำจากผัก ผลไม้ และน้ำมันดิบ