นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าฯ ร่วมกับ กระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้า และหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย จัดงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2023 ภายใต้ธีม" Connect Competitive Sustainable" เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย
การจัดงานดังกล่าว ถือเป็นเวทีสร้างความร่วมมือ (Connect) ระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ในการพูดคุยและหาแนวทางความร่วมมือในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการบรรยายพิเศษหัวข้อ "แนวนโยบายภูมิทัศน์ใหม่ภาคการเงินไทย เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัล และการเติบโตอย่างยั่งยืน" โดยคุณธาริฑธิ์ ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการบรรยายพิเศษ หัวข้อเรื่อง "เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล" โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน (Competitive) ของประเทศผ่านการสร้างความตระหนักถึงการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะ AI มาปรับใช้เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจ โดยนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการบริหาร สสว. บรรยายพิเศษ หัวข้อเรื่อง "ความสามารถในการแข่งขันของไทยในโลกใหม่ และประเด็นสุดท้ายคือการสร้างความยั่งยืน (Sustainable) ของภาคธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม
นายสนั่น กล่าวว่า สภาหอการค้าฯ หวังว่าการจัดงานสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะเป็นหนึ่งในเวทีระดมความคิดเห็น และข้อเสนอเพิ่มเติมของภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอหอการค้าไทย ที่จะมีการจัดทำเป็นสมุดปกขาวมอบแก่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐบาลชุดใหม่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะประเด็นข้อเสนอเร่งด่วนด้านเศรษฐกิจของหอการค้าฯ ได้แก่
1) การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ผ่านนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายลดค่าครองชีพ และลดต้นทุนภาคเอกชน
2) ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายและเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว
3) การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณที่ยังค้างท่อ และเร่งจัดทำงบประมาณรายจ่าย 2567 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการขับเคลื่อนแผนงานต่างๆ
รวมทั้งการเร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน ภายใต้การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน ผ่านกลไก คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ทุกระดับ เพื่อผลักดัน GDP ปีนี้ ให้สามารถเติบโตได้มากกว่า 3% และเป็นแรงส่งต่อให้ GDP ปีหน้าเติบโตได้ 5% ต่อไป