จับตาเอลนีโญกระทบอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี ฉุดยอดขายวูบหลักแสนลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 7, 2023 16:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จับตาเอลนีโญกระทบอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมี ฉุดยอดขายวูบหลักแสนลบ.

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ประเมินผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญไม่ได้จำกัดแต่ในภาคการเกษตร แต่ส่งผลไปยังอุตสาหกรรมต้นน้ำสำคัญ คือ อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ที่ประเมินว่าจะได้รับผลกระทบหนักยอดขายวูบในช่วง 2 ปีรวมกัน 1.42-1.53 แสนล้านบาท

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรมีการขยายตัวสูง จากภาวะราคาปุ๋ยเคมีที่ปรับเพิ่มสูงด้วยปัญหาฝั่งอุปทานจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน และเป็นช่วงเวลาที่จีนยังไม่เปิดประเทศอย่างสมบูรณ์ รวมถึงต้นทุนการผลิตที่เร่งขึ้นตามราคาพลังงาน ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยปุ๋ยเคมีในปี 65 ขยับเพิ่มขึ้นถึง 145% เมื่อเทียบกับปี 63 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญให้มูลค่าอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรในปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.45 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในปี 66 สถานการณ์ของอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร เริ่มได้รับแรงกดดันจากราคาปุ๋ยเคมีที่ปรับตัวลงในช่วง 7 เดือนแรกกว่า 22% จากปัญหาอุปทานที่เริ่มคลายตัว แต่จากปริมาณการกักเก็บน้ำในอ่างเก็บน้ำที่ยังเพียงพอสำหรับการชลประทานทางการเกษตรจากฝนที่ตกมากในปี 65 ผลกระทบจากปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีจึงค่อนข้างจำกัด มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีอาจปรับลดลงที่ 23% หรือลดลงเหลือ 2.66 แสนล้านบาท

ส่วนในปี 67 คาดผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลกระทบต่อไปยังอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรซ้ำเป็นระลอกที่สอง จากภาวะผลกระทบของราคาที่ถีบตัวสูงในปีก่อนหน้า ด้วยภาวะฝนน้อยและภัยแล้ง ที่ส่งผลให้เกษตรกรต้องวางแผนลดปริมาณเพาะปลูก เช่น ข้าวนาปรัง และการทำการเกษตรนอกเขตชลประทาน ส่งผลต่อปริมาณการใช้ปุ๋ยและสารเคมีที่ลดลง และราคาปุ๋ยเคมีที่อาจปรับลดลงอีกตามกลไกราคา ส่งผลให้คาดการณ์ตลาดของอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรในปี 67 อาจหดตัว 24-28% เหลือ 1.92-2.04 แสนล้านบาท

ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่อุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตรได้รับผลกระทบทางอ้อมที่ค่อนข้างรุนแรง ทั้งในมิติของราคาและปริมาณที่ลดลง TTB จึงแนะภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. กลุ่มผู้ผลิตปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ควรเร่งพิจารณาประเมินการผลิตให้สอดคล้องกับสถานการณ์การใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ที่อาจลดลงจากภาวะฝนแล้งเพื่อลดความเสี่ยงของราคาปุ๋ยที่เข้าสู่ขาลงเพื่อเลี่ยงการขาดทุนจากราคาสินค้าคงคลังที่ปรับลดตามราคาตลาด (Stock Loss) รวมถึงการพิจารณาการใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า เพื่อลดความผันผวนเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นสิ่งที่จัดการและคาดการณ์ได้ยากกว่าราคาวัตถุดิบ เป็นต้น

2. กลุ่มผู้ค้าส่งปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ควรประเมินสถานการณ์และตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกในพื้นที่ให้บริการของตน เพื่อจัดสินค้าให้หมาะสมกับปริมาณใช้จริงในพื้นที่การเกษตรในจุดให้บริการเพื่อลดเงินทุนที่ติดอยู่ในสินค้าคงคลัง รวมถึงในช่วงที่ราคาสินค้าเข้าสู่ขาลง การมีสินค้าคงคลังจำนวนมากและอัตราหมุนเวียนต่ำ อาจส่งผลต่อการขาดทุนจากราคาสินค้าคงคลังที่ปรับลดตามราคาตลาด (Stock Loss) ได้

นอกจากนี้ ควรพิจารณาเรื่องเครดิตทางการค้าที่ให้กับผู้ค้ารายย่อย (Account Receivable) เนื่องจากผู้ค้าปุ๋ยรายย่อยบางส่วน มีการให้เครดิตปุ๋ยกับเกษตรกร และในช่วงภัยแล้งความสามารถในการชำระหนี้ของเกษตรกรได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจส่งผลต่อการรับชำระหนี้ของผู้ค้าปุ๋ยรายย่อยและผู้ค้าส่งปุ๋ยได้ (Reverse Effect)

โดยสรุปคาด ปี 67 เป็นปีที่ไทยได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ลดทอนผลผลิตและรายได้ภาคเกษตร อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญไม่จำกัดแค่ในภาคการเกษตร แต่ยังส่งผลกระทบสืบเนื่องไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำ เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีทางการเกษตร ที่มูลค่าตลาดหดตัวค่อนข้างมากตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น แล้วยังส่งผลสืบเนื่องไปยังอุตสาหกรรมปลายน้ำ เช่น อุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมปศุสัตว์ และกลุ่มร้านอาหารในเวลาเดียวกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ