นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้เปิดให้หน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ เข้าพบเพื่อหารือข้อราชการอย่างไม่เป็นทางการ
โดยในเบื้องต้น นายภูมิธรรม ได้สั่งการให้กรมฯ ดูแลการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ลดค่าครองชีพ และเพิ่มโอกาสให้กับประชาชน ซึ่งมีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงต้องมีการบริหารจัดการและสร้างสมดุลให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ทั้งผู้ประกอบการ และผู้บริโภค
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า กรมฯ จะเน้นใช้มาตรการเดิมที่ดำเนินการมาตลอด เช่น ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคา ช่วยหาทางลดต้นทุนให้เกษตรกร และผู้ประกอบการ เพื่อให้ยังคงตรึงราคาสินค้าไว้ได้ รวมถึงจัดรถเคลื่อนที่ขายสินค้าจำเป็นในราคาประหยัด กระจายไปตามจุดต่างๆ เป็นต้น
ส่วนการดูแลภาคเกษตรนั้น ขณะนี้ราคาพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งข้าว, ปาล์มน้ำมัน, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์, มันสำปะหลัง ฯลฯ มีราคาดี จึงยังไม่ได้มีคำสั่งใดเป็นพิเศษว่าต้องใช้มาตรการใดเข้ามาช่วยดูแล แต่ได้สั่งการให้กรมฯ พิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งหลังจากนี้ จะต้องพิจารณาในรายละเอียดของมาตรการต่างๆ อีกครั้ง โดยจะมีการหารือกับคณะกรรมการของแต่ละพืชชนิดที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่ทรงตัวในระดับสูง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน อาทิ
- ข้าวหอมมะลิ ราคา 15,800 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกปทุมธานี 13,700 บาท/ตัน, ข้าวเปลือกเจ้า 12,400 บาท/ตัน และข้าวเปลือกเหนียว 13,300 บาท/ตัน
- มันสำปะหลัง 3.40 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน
- ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 10.55 บาท/กก.
- ปาล์มน้ำมัน 5.50 บาท/กก. และน้ำมันปาล์มบรรจุ 45.56 บาท/ขวด สอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบ
- ผัก ราคาปรับลดลงเมื่อเทียบช่วงที่ผ่านมา แต่ในเดือนต.ค. นี้ กรมฯ ร่วมกับสมาคมตลาดสด และพันธมิตรอื่นๆ เตรียมเชื่อมโยงผลผลิตตรงสู่ผู้บริโภค เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลน และราคาขยับสูงขึ้นเกินจริง ลดภาระค่าครองชีพประชาชน
ด้าน ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ปัจจัยการผลิตต่างๆ ราคาต่ำกว่ากลางปี 65 มาก เช่น แม่ปุ๋ยยูเรีย ต่ำกว่ากลางปีที่แล้ว 48%, แม่ปุ๋ยฟอสเฟต ต่ำกว่า 39%, แม่ปุ๋ยโพแทส ต่ำกว่า 42%, ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ต่ำกว่า 49%, ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ต่ำกว่า 32% และปุ๋ยสูตร 16-20-0 ต่ำกว่า 27%
อย่างไรก็ดี คาดว่าแนวโน้มราคาน่าจะทรงตัว และค่อยปรับลดลงในระยะต่อไป เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยอยู่ที่ 11 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ต่ำกว่า 2 ปีที่ผ่านมา และความต้องการใช้ปุ๋ยในตลาดโลกลดลง เพราะพ้นช่วงฤดูเพาะปลูกไปแล้ว ส่วนยาป้องกันและปราบศัตรูพืช ก็ปรับลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน