นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และนายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการ SME Platform เพื่อพัฒนาและสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้นและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม" เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการทั้งภาคการเงิน การผลิต เทคโนโลยีสมัยใหม่
2 หน่วยงานจะร่วมมือกันเชื่อมโยงบทบาทการทำงานของตลาดเงินและตลาดทุนในการส่งเสริมสนับสนุนกลุ่ม Start up และ SMEs ผ่านโครงการ SME Platform รองรับการเติบโตของภาคธุรกิจ เพื่อเตรียมสร้างความพร้อมสู่การระดมทุนในตลาดทุน ซึ่ง บสย. และตลท.จะร่วมบ่มเพาะเติมความรู้ด้านการเงินการลงทุนให้แก่ Start up และ SMEs ผ่านหลักสูตร e-Learning และ Scaling Up Platform หลักสูตรการอบรมเชิงลึก การจัดระบบงาน จับคู่ธุรกิจและให้คำปรึกษาธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศน์ ที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตผ่านช่องทางตลท.Live Exchange และผ่าน บสย. Business School ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน บสย. F.A. Center
นายสิทธิกร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ บสย. จะให้ความช่วยเหลือ SMEs และ Start up ใน 3 มิติ คือ
1. มิติการเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงิน ผ่านกลไกผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อ ภายใต้โครงการ SMEs เข้มแข็ง (PGS10)
2. ด้านการบ่มเพาะผู้ประกอบการให้มีความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) ผ่าน บสย. F.A. Center และ Live Platform ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3. มิติการบริหารหนี้ ช่วย SMEs แก้หนี้อย่างยั่งยืน โดยการค้ำประกันสินเชื่อเป็นกลไกที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ (Economic Value) ให้กับ SMEs ซึ่งมีมูลค่าต่อ GDP 30-35% และรักษาการจ้างงานกว่า 70%
นายสิทธิกร กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ขยายความช่วยเหลือโดยใช้ศักยภาพและกลไกของทั้ง 2 หน่วยงานเชื่อมโยงช่วยเหลือให้ SMEs ได้เข้าถึงแหล่งทุน จากทั้งตลาดเงิน และการระดมทุนผ่านตลาดทุน โดย บสย. มีฐานลูกค้าค้ำประกันสินเชื่อ SMEs มากกว่า 8 แสนราย ซึ่งมี SMEs ที่มีโอกาสขยายกิจการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) ประมาณ 30% หรือราว 240,000 ราย
"ภายใต้โครงการนี้ คาดว่าจะช่วยเชื่อมโยงให้ SMEs ได้รวมตัวกันและ scale up ขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์ (LiVEx) เพื่อให้บริษัทเหล่านี้พัฒนา และเติบโตไปเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป" นายสิทธิกร ระบุ