ครม.เศรษฐา นัดแรกจัดชุดใหญ่!! ลดค่าไฟ-ดีเซล,พักหนี้,ศึกษาแก้รธน.,วีซ่าฟรี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 13, 2023 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ครม.เศรษฐา นัดแรกจัดชุดใหญ่!! ลดค่าไฟ-ดีเซล,พักหนี้,ศึกษาแก้รธน.,วีซ่าฟรี

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรกวันนี้มีมติอนุมัติมาตรการสำคัญ ได้แก่

  • แต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560
  • วีซ่าฟรีชั่วคราว นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน เริ่ม 25 ก.ย.66-29 ก.พ.67
  • ตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ Soft Power แห่งชาติ
  • พักหนี้เกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็กเป็นเวลา 3 ปี
  • ปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบ เป็น 2 รอบ คาดว่าจะมีผล 1 ม.ค. 67
  • ลดค่าไฟฟ้าเหลือ 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จาก 4.45 บาท เริ่มรอบบิล ก.ย.นี้
  • ลดราคาน้ำมันดีเซลสำหรับภาคขนส่งต่ำกว่า 30 บาท/ลิตร เริ่ม 20 ก.ย.66

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการอนุมัติมาตรการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นในวันนี้

ในส่วนการแก้ไขปัญหาความเห็นต่างในรัฐธรรมนูญปี 2560 เห็นชอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ โดยยึดตามแนวทางของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสำคัญ โดยจะใช้เวทีรัฐสภาในการหารือรูปแบบแนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมออกแบบกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยร่วมกัน

เรื่องวีซ่าฟรีชั่วคราว ในการเดินทางเข้าประเทศไทยของประเทศจีนและคาซัคสถาน ซึ่งคาซัคสถานอยู่ในยุโรปซึ่งมีภาวะฤดูหนาวที่รุนแรง และดูจากสถิติเป็นประเทศที่มีผู้อยากเดินทางเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยวีซ่าฟรี จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66 - 29 ก.พ. 67 เป็นการยกเว้นชั่วคราว หลังจากวานนี้ พูดคุยกันทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ฝ่ายความมั่นคง และบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ให้แน่ใจว่าทุกภาคส่วนพร้อมรองรับ

การตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่ได้หาเสียงไป และเป็นการดึงศักยภาพของประชาชนชาวไทย ออกมาเพื่อเสริมสร้างรายได้ เพิ่มโอกาสให้กับประชาชน

ส่วนเรื่องการพักหนี้เกษตรกร และธุรกิจขนาดเล็ก ได้พักหนี้เป็นเวลา 3 ปี โดยมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินนโยบายพักหนี้ โดยมีกรอบระยะเวลาไม่เกิน 14 วัน เพื่อนำเสนอแนวทางการดำเนินนโยบายต่อครม.

การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ โดยบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 67 เป็นต้นไป โดยต้องมีการแก้ไขระบบหลายอย่าง เชื่อว่าจะช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับข้าราชการชั้นผู้น้อย และจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน โดยไม่ต้องคอยจนถึงสิ้นเดือน

เรื่องค่าไฟฟ้า ครม. มีมติลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 บาท เหลือ 4.10 บาทต่อกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าที่ประชาชนได้คาดไว้ ซึ่งจะเริ่มในรอบบินเดือนก.ย.นี้เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันดีเซล ลดให้ราคาต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร โดยจะเริ่มได้ในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ในส่วนของน้ำมันเบนซินได้มีการพูดคุยกัน แต่ต้องดูรายละเอียดให้ดีในกลุ่มผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ ซึ่งจะมีมาตรการตามมาภายหลัง

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลเร่งด่วนในการลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านพลังงานให้แก่ประชาชน ประกอบกับสถานการณ์พลังงานในตลาดโลกเข้าสู่ในไตรมาสที่ 4 (ฤดูหนาว) ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

กระทรวงพลังงานจึงเสนอมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 2 ด้าน ได้แก่

1. มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิง

  • ราคาน้ำมันดีเซล ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. -31 ธ.ค. 66 โดยใช้กลไกของภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ราคาน้ำมันเบนซิน กระทรวงพลังงานจะพิจารณารายละเอียดแนวทางการช่วยเหลือแบบมุ่งเป้าให้แก่ผู้ใช้น้ำมันเบนซินกลุ่มเปราะบาง เช่น กลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและแท็กซี่ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ ให้มีการกำกับดูแลราคาขายปลีกให้มีค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ประมาณ 2.00 บาทต่อลิตร ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)
  • ราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) ตรึงราคาขายปลีก LPG ที่ระดับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. 66 ผ่านกลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้ง จะมีมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กับผู้มีรายได้น้อยหรือกลุ่มเป้าหมาย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

2. มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า

  • ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าที่ประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้ารอบเดือน ก.ย.- ธ.ค. 66 ในอัตรา 4.45 บาทต่อหน่วย ลงเหลือในอัตรา 4.10 บาทต่อหน่วย โดยกระทรวงพลังงานร่วมกับคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะดำเนินการหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการคิดราคาก๊าซธรรมชาติ Pool gas ให้ไม่เกินค่าประมาณการคงที่ ประมาณ 305 บาทต่อล้านบีทียู และให้นำส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บไปทยอยเรียกเก็บคืน ซึ่งจะทำให้ปรับลดราคาค่าไฟฟ้าลงได้อีก
  • นอกจากนี้ จะมีการดำเนินมาตรการช่วยเหลือส่วนลดค่าไฟฟ้าเพิ่มเติมให้แก่กลุ่มเปราะบาง อาทิ การให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน โดยกระทรวงพลังงานจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเสนอต่อครม.ต่อไป

ทั้งนี้ มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ทั้ง 2 ด้าน นั้น คณะรัฐมนตรีได้มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินการต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ