ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นควรขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มออกไปอีก 1 ปี โดยให้คงจัดเก็บในอัตรา 6.3% (ไม่รวมภาษีท้องถิ่น) หรือ 7% (รวมภาษีท้องถิ่น) สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ หรือการนำเข้าทุกกรณี ซึ่งความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 66 ถึงวันที่ 30 กันยายน 67
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 66 และปีต่อไป มีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
จากข้อมูลการวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2/66 และแนวโน้มปี 66 ณ วันที่ 21 สิงหาคม 66 โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 1.8% ชะลอลงจากการขยายตัว 2.6% ในไตรมาส 1/66 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภาครัฐที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น จากการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และราคาสินค้าและบริการ รวมถึงการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ล่าช้ากว่าปกติ
ดังนั้น เพื่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ สนับสนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศอันจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ บรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจ เห็นควรขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มออกไปอีก 1 ปี
กระทรวงการคลัง ได้พิจารณาประมาณการการสูญเสียรายได้และประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับตามมาตรา 27 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 แล้วพบว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... (การขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม) จะไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐเพิ่มเติม และจะได้รับประโยชน์คุ้มค่าที่จะดำเนินการ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ประมาณการการสูญเสียรายได้
1.1 การขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มจะไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้ของรัฐเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี หากไม่มีการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยจัดเก็บในอัตราตามประมวลรัษฎากร 11.11% (รวมภาษีท้องถิ่น) จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 380,000 ล้านบาทต่อปี 1.2 การขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม จะไม่มีผลกระทบต่อการประมาณการรายได้รัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เพื่อจัดทำวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เนื่องจากได้ประมาณการรายได้โดยใช้อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบัน
2. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2.1 การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนภายในประเทศ และเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 2.2 ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย และการลงทุนภาคเอกชนภายในประเทศ ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 2.3 อัตราภาษีไม่ทำให้ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น
ด้านนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หากดูจากข้อมูลเศรษฐกิจตอนนี้ คงยังไม่เหมาะที่จะปรับขึ้นภาษี VAT เพราะการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวถือเป็นเรื่องใหญ่ เศรษฐกิจจะต้องมีความพร้อมจริง ๆ รวมถึงต้องมีมาตรการเพื่อเตรียมรองรับด้วย