ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ตลาดปริวรรตเงินตราออสเตรเลียเช้านี้ (30 เม.ย.) ก่อนที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะได้ข้อสรุปเรื่องอัตราดอกเบี้ยในคืนนี้ และก่อนที่สหรัฐจะรายงานตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ(GDP)ประจำไตรมาสแรก
เทรดเดอร์คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นลงอีก 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.0% แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ทิศทางของเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวตามแถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดที่จะส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจในระยะกลาง
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 08.25 น. ตามเวลาในประเทศไทย ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 104.08 เยนต่อดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 104.04 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงไปแตะที่ 1.5569 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.5572 ดอลลาร์ต่อยูโร
โดยเมื่อช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาเตือนถึงภาวะเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันก็มองเห็นถึงความเป็นไปได้ว่าสหรัฐจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
นายสไปรอส ปาปาดูพูลอส นักวิเคราะห์จากเอ็นเอบี แคปิตอลกล่าว "เฟดอาจส่งสัญญาณถึงการยุติวงจรการลดดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยมาตลอดทั้ง 6 เดือนที่ผ่านมา" ขณะที่คาดว่ารายงานตัวเลข GDP ไตรมาสแรกจะออกมาไม่สู้ดีนัก ส่วนรายงานตัวเลขจ้างงานของ ADP จะปรับตัวลดลง 60,000 ตำแหน่ง ก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์นี้
"เทรดเดอร์มองว่ามีความเป็นไปได้มากถึง 80% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ไปอยู่ที่ระดับ 2.0% ก่อนที่จะยุติวงจรการลดดอกเบี้ย" ปาปาดูพูลอสกล่าว
"การที่เฟดส่งสัญญาณระงับการลดดอกเบี้ยนั้นจะเป็นปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ในระยะหนึ่ง ซึ่งหากเฟดเริ่มมีความวิตกกังวลต่อตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น เงินดอลลาร์ก็จะแข็งค่าขึ้นด้วย ในทางกลับกัน หากเฟดยังคงจุดยืนในการลดดอกเบี้ยต่อไป เงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลง"
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--