ทั้งนี้ ยังได้หารือถึงการใช้ประโยชน์จากระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor - ILSTC) ที่เขตปกครองกว่างซีจ้วง มีทำเลที่ตั้งเป็นข้อได้เปรียบ มีชายแดนทางบกและทะเลติดกับเวียดนาม และมีระบบคมนาคมทั้งทางบก น้ำ และอากาศครบวงจร โดยไทยพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากระบบคมนาคม เพื่อขยายการส่งออกสินค้าไทยและผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน และขอบคุณรัฐบาลจีนและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง อำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าของไทย โดยเฉพาะผลไม้ และสินค้าอื่น ๆ ที่ผ่านทางด่านโหย่วอี้กวนต่อไป เพราะผลความร่วมมือที่ผ่านมา ทำให้ไทยสามารถส่งออกผลไม้เข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น สะดวกขึ้น และผู้บริโภคชาวจีน ได้ประโยชน์ในการบริโภคผลไม้ที่สดใหม่ จากการขนส่งที่สะดวก รวดเร็ว นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการเปิดกว้างของระบบเศรษฐกิจในภูมิภาค ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกัน รวมถึงการกระชับความ ร่วมมือในด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาด้านโลจิสติกส์ การเชื่อมโยงกว่างซีจ้วงกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บีโอไอ เพื่อความร่วมมือด้านการลงทุน และได้แจ้งว่าล่าสุดรัฐบาลไทยได้อนุมัติฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะช่วยอำนวย ความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีนในการเดินทางมาไทย และจะเป็นการช่วยฟื้นฟูธุรกิจท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าการลงทุนของทั้งสองประเทศด้วย
สำหรับมูลค่าการค้าไทย-จีน นั้น จีนเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับ 1 ของไทย 11 ปีต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี 2556 ปัจจุบัน โดยปี 2565 ไทยส่งออกไปจีน 1.19 ล้านล้านบาท ปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกไปจีน 695,516 ล้านบาท สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เม็ดพลาสติก คอมพิวเตอร์ สินค้านำเข้าสำคัญ เครื่องจักรไฟฟ้า เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์
ในส่วนมูลค่าการค้าไทย-เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง ปี 2565 มูลค่าการค้ารวม 30,680 ล้านหยวน (153,400 ล้านบาท) ไทยส่งออกมูลค่า 15,000 ล้านหยวน (75,000 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 6.3% ของ การส่งออกไทยไปจีน ทั้งนี้เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วงนั้นฐานะเทียบเท่ามณฑล มี 14 เมือง นครหนานหนึ่งเป็นเมืองเอก จีนกำหนดให้เป็น "ประตูสู่อาเซียน