นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่หลายฝ่ายกังวล แต่ปัญหาเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่น่าห่วงกว่าและเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลรีบแก้ไข ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเพื่อจะดูแลค่าครองชีพและการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน
"ตอนนี้ไม่มีประเด็นใหม่ อีกสักพักก็คงซาไป ถ้าถามประชาชน ประชาชนจะห่วงเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาการเมืองเป็นข่าวสารชั่วคราว" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าว
สำหรับอัตราเงินเฟ้อที่ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าปีนี้จะอยู่ที่ 5.0-5.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าที่เคยคาดการณ์ไว้ 3.0-3.5% นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากราคาน้ำมันที่มีความผันผวนขึ้นไปแตะ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังมีแนวโน้มที่จะผันผวนต่อไป
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 5% บวก/ลบนั้นเป็นสิ่งที่แต่ละสถาบันยังมีมุมมองแตกต่างกัน แต่น่าจะเป็นอัตราที่อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว ซึ่งหากเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศเพื่อนบ้านแล้ว อัตราเงินเฟ้อของไทยยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สิงคโปร์ 7%, จีน 11%, เวียดนาม 16% จึงไม่น่าจะเกิดปัญหาเพราะไทยจะเคยเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่ 5% มาแล้วในช่วงปี 40 แต่ทั้งนี้ก็จะต้องไม่ประมาท โดยยังมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถดูแลอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในภาวะที่สมดุลได้
นพ.สุรพงษ์ ยังเห็นว่า แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)อาจจะลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมคืนนี้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเงินทุนไหลเข้าอย่างผิดปกติเพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนของไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาค และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศเพื่อนบ้านยังสูงกว่าของไทย
ในส่วนของการดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ได้ดูแลและติดตามเป็นพิเศษ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถดูแลได้ไม่น่าห่วง ส่วนการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนั้น เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)คงจะพิจารณาให้เกิดความสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการดูแลอัตราเงินเฟ้อ
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/กษมาพร/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--