ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งทางสภาคองเกรสจำเป็นต้องเร่งใช้นโยบายช่วยเหลือชาวอเมริกันมากขึ้น พร้อมกันนี้บุชกล่าวว่า เขาจะพิจารณาสนับสนุนข้อเสนอการยกเลิกภาษีน้ำมันเบนซินในฤดูร้อนนี้
"ชาวอเมริกันต่างวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ในมือ นับตั้งแต่ราคาอาหารและก๊าซไปจนถึงการชำระเงินกู้จำนองบ้านและค่าเล่าเรียน" บุชกล่าว
ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า ข้อเสนอที่นายจอห์น แม็คเคน วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกัน และนางฮิลลารี คลินตัน วุฒิสมาชิกจากรัฐแดโมเครตต้องการให้ทำเนียบขาวอนุมัติมาตรการยกเลิกภาษีน้ำมันในช่วงฤดูร้อนนี้จะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้น บุชตอบว่า เขาจะเป็นผู้พิจารณาข้อเสนอดังกล่าวด้วยตัวเอง ขณะที่วุฒิสมาชิกบารัค โอบาม่า คู่แข่งร่วมพรรคของนางคลินตันกลับไม่เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าว
"ผมเปิดรับทุกความคิดเห็น" บุชกล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า "หากใครมีความคิดดีๆเราก็ยินดีที่จะรับไว้พิจารณา แต่ถ้าไม่ เราก็จะเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างจากแหล่งอื่น"
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจนั้น บุชปฏิเสธที่จะตอบคำถามที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐก้าวเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วหรือไม่ โดยชี้แจงว่า "คนส่วนใหญ่ไม่สนใจต่อการให้คำจำกัดความถึงภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้"
นอกจากนี้ บุชยังได้เรียกร้องให้ทางสภาคองเกรสเห็นชอบกับข้อเสนอของเขาในการช่วยเหลือตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและเรียกร้องให้มีการขุดเจาะน้ำมันในโครงการ Arctic National Wildlife Refuge เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดราคาน้ำมันเบนซิน เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้อุปสงค์น้ำมันขยายตัวสูงกว่าอุปทานที่มีอยู่
ขณะเดียวกัน บุชยังกล่าวย้ำถึงจุดยืนของเขาที่ไม่เห็นด้วยกับการระงับแผนเพิ่มปริมาณน้ำมันในคลังสำรองน้ำมันเชิงกลยุทธ์ โดยให้เหตุผลว่าการเพิ่มน้ำมันในคลังสำรองของสหรัฐมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันแต่อย่างใด
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--