ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.03 ระหว่างวันผันผวน กลางสัปดาห์หน้าลุ้นผลประชุม กนง.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 22, 2023 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.03 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็ง ค่าจากเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 36.13 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่ปรับตัวแข็งค่ามากสุด ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 35.99 - 36.25 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทมีทิศทางผันผวน ตามแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก ปิดตลาดกลับมาแข็งค่าสุดในภูมิภาคหลังจากอ่อนค่าไป มาก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 35.95 - 36.20 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งช่วง กลางสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งยังมีความเห็นก้ำกึ่งเรื่องทิศทางดอกเบี้ยว่าจะมีการปรับ ขึ้น หรือคงอัตราเดิมไว้ หลังมีเสียงคัดค้านจากภาคเอกชน

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 148.32 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 148.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0637 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0655 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,522.59 จุด เพิ่มขึ้น 8.33 จุด, +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 57,160.61 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,295.33 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายกรัฐมนตรี ระบุขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังจับตาเงินบาทที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ดีการอ่อนค่า
ของเงินบาทไม่ใช่เรื่องแย่ไปทั้งหมดสำหรับเศรษฐกิจไทย โดยเงินบาทที่อ่อนค่า จะเป็นปัจจัยหนุนภาคการส่งออกและท่องเที่ยว
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดช่วงปลายปีเงินบาทยังมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยจากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้ม
อ่อนค่าลง รวมทั้งยอดดุลบัญชีเดินสะพัดจากการท่องเที่ยวและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
  • สถาบันเฟรเซอร์ เผยรายงานดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจทั่วโลก (Economic Freedom of the World
Index) ประจำปี 2566 ไทยติดอันดับ 64 จากทั้งหมด 165 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ด้วยคะแนน 7.07 คะแนน และติดอันดับ
3 ในอาเซียน ขณะที่สิงคโปร์รั้งอันดับ 1 ด้วยคะแนน 8.56 คะแนน แซงหน้าฮ่องกงที่ร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 2 ด้วยคะแนน 8.55
คะแนน ตามมาด้วยสวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสหรัฐ ซึ่งอยู่ในอันดับ 3-5 ตามลำดับ
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ (Ultra-loose Policy) โดยคงอัตรา
ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีไว้ที่ราวระดับ 0% ซึ่งสะท้อนให้เห็น
ว่า BOJ มีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและทั่วโลก
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 2 แห่ง
ของจีน คือ บริษัท ไชน่า จินเหมา โฮลดิงส์ กรุ๊ป (China Jinmao Holdings Group) และไชน่า แวนกี้ (China Vanke)
โดยระบุบริษัททั้ง 2 แห่ง มีแนวโน้มถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าวิกฤตหนี้สินในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนกำลัง
ลุกลามเป็นวงกว้าง
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 0.4% แม้ว่าฟื้นตัวจากเดือน ก.ค.แต่
ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
  • รัฐบาลญี่ปุ่น เผยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นเดือนที่

17 ติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้ BOJ เริ่มพิจารณายกเลิกการใช้

นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ(Ultra-loose Policy)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ