สุวรรณภูมิคึกคัก! วันแรกวีซ่าฟรี นทท.จีนไฟล์ทแรก 306 คน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 25, 2023 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สุวรรณภูมิคึกคัก! วันแรกวีซ่าฟรี นทท.จีนไฟล์ทแรก 306 คน

จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 ได้เห็นชอบมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66 - 29 ก.พ.67 เป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือนนั้น

วันนี้เป็นวันแรกของมาตรการวีซ่าฟรี กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และสาธารณรัฐคาซัคสถาน ณ ท่าอากาศยานสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต

สุวรรณภูมิคึกคัก! วันแรกวีซ่าฟรี นทท.จีนไฟล์ทแรก 306 คน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 761 เส้นทางเซียงไฮ้-สุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 341 คน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 306 คน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น 35 คน ท่าอากาศยานดอนเมือง จำนวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน FD583 สายการบิน Thai Air Asia จากคุนหมิง เที่ยวบิน SL935 สายการบิน Thai Lion Air จากฉางซา และเที่ยวบิน DD3111 สายการบิน Nok Air จากหนานหนิง

ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 2 เที่ยวบิน สายการบิน China Eastern Airlines ได้แก่ เที่ยวบิน MU 205 จากเซี่ยงไฮ้ และเที่ยวบิน MU 2563 จากคุนหมิง

ท่าอากาศยานภูเก็ต ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน 1 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน KC 563 สายการบิน Air Astana จากอัลมาตี้ และจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน CA 717 สายการบิน Air China จากหางโจว เที่ยวบิน 9C8667 สายการบิน Spring Airlines จากเซี่ยงไฮ้ และเที่ยวบิน CA 821 สายการบิน Air China จากปักกิ่ง

ทั้งนี้ ททท. คาดการณ์ว่า มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะสามารถกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 4.01 - 4.4 ล้านคนในปี 66 และผลักดันรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมาย 257,500 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในช่วง 5 เดือนที่มีมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการฟื้นตัว 62% เมื่อเทียบกับปี 62 และคาดว่านักท่องเที่ยวคาซัคสถานจะเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน 150,000 คนในปี 66 และคาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจำนวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้น 49.7%เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาท

รัฐบาลเชื่อมั่นว่า มาตรการดังกล่าวจะเข้ามาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาอีกครั้ง เนื่องจากจะช่วยคลี่คลายข้อจำกัดในการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีน ทั้งเรื่องระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive

ประกอบกับช่วงเวลาดำเนินมาตรการฯ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ครอบคลุมช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ จะยิ่งช่วยผลักดันสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ตั้งไว้ของปี 66 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25-30 ล้านคน และสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ ให้กลับมาในอัตรา 80% ของปี 62 ที่ 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมมุ่งสู่เป้ารายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท

นายเศรษฐา กล่าวภายหลังต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนว่า มั่นใจว่านโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้มาก จากการสอบถามเบื้องต้นพบว่า มีการจองเข้ามาจำนวนมาก เราต้องการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามา ไม่ใช่แค่เมืองหลัก เช่น กรุงเทพ พัทยา ภูเก็ต แต่จะสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวเมืองรองมากขึ้น เพื่อให้ใช้เวลาในประเทศไทยนานขึ้น เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายมากขึ้น

สิ่งสำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาถึง จนก้าวสุดท้ายที่เดินทางกลับ ต้องมีความปลอดภัยและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศมีความรวดเร็วมากขึ้นตั้งแต่การตรวจคนเข้าเมือง มาถึงจุดที่รับกระเป๋า ซึ่งถือว่ามีความสำคัญ ซึ่งทำให้เดินทางไปยังจุดหมายของนักท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น ภาครัฐและทุกคนมีส่วนช่วยให้วันนี้เป็นวันที่ดีวันหนึ่งของประเทศไทย

*คาด 7 วันแรกมาตรการวีซ่าฟรี หนุนเที่ยวบิน-ผู้โดยสารเพิ่ม

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. คาดว่าในช่วง 7 วันแรกของมาตรการ คือ ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. - 1 ต.ค.66 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) จะมีเที่ยวบินรวม 674 เที่ยวบิน (เฉลี่ย 96 เที่ยวบินต่อวัน) เป็นเที่ยวบินขาเข้าและขาออก ขาละ 337 เที่ยวบิน เทียบกับข้อมูลการบินที่เกิดขึ้นจริงช่วง 7 วันก่อนมีมาตรการ (11 - 17 ก.ย. 66) มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออกรวม 509 เที่ยวบิน (เฉลี่ย 72 เที่ยวบินต่อวัน) แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 254 เที่ยวบิน และขาออก 255 เที่ยวบิน

ในส่วนประมาณการผู้โดยสาร คาดว่าจะมีผู้โดยสารจากเที่ยวบินจีนรวม 130,593 คน (เฉลี่ย 18,656 คนต่อวัน) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 65,584 คน ขาออก 65,009 คน เทียบกับข้อมูลการบินที่เกิดขึ้นจริงช่วง 7 วันก่อนมีมาตรการ (11 - 17 ก.ย. 66) มีผู้โดยสารจากเที่ยวบินจีนรวม 67,761 คน (เฉลี่ย 9,680 คนต่อวัน) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 34,801 คน และขาออก 32,960 คน

สำหรับเที่ยวบินระหว่าง ทสภ.และสาธารณรัฐคาซัคสถาน คาดว่าในช่วง 7 วันแรกของมาตรการ (25 ก.ย. - 1 ต.ค. 66) มีเที่ยวบินรวม 6 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินขาเข้าและขาออก ขาละ 3 เที่ยวบิน เท่ากับช่วงก่อนมีมาตรการ แต่คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,338 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้าและขาออก ขาละ 669 คน เทียบกับข้อมูลการบินที่เกิดขึ้นจริงช่วง 7 วันก่อนมีมาตรการ (11 - 17 ก.ย. 66) ที่มีผู้โดยสาร 853 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 473 คน และผู้โดยสารขาออก 413 คน

ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) คาดว่าในช่วง 7 วันแรกของมาตรการ (25 ก.ย. - 1 ต.ค.66) จะมีเที่ยวบินรวม 414 เที่ยวบิน (เฉลี่ย 60 เที่ยวบินต่อวัน) เป็นเที่ยวบินขาเข้าและขาออก ขาละ 207 เที่ยวบิน เทียบกับข้อมูลการบินที่เกิดขึ้นจริงช่วง 7 วันก่อนมีมาตรการ (11 - 17 ก.ย. 66) มีเที่ยวบินขาเข้าและขาออกรวม 326 เที่ยวบิน (เฉลี่ย 47 เที่ยวบินต่อวัน) แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 163 เที่ยวบิน และขาออก 163 เที่ยวบิน

ในส่วนประมาณการผู้โดยสาร คาดว่าจะมีผู้โดยสารจากเที่ยวบินจีนรวม 57,549 คน (เฉลี่ย 8,222 คนต่อวัน) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 28,648 คน ขาออก 28,901 คน เทียบกับข้อมูลการบินที่เกิดขึ้นจริงช่วง 7 วันก่อนมีมาตรการ (11 - 17 ก.ย. 66) มีผู้โดยสารจากเที่ยวบินจีนรวม 43,783 คน (เฉลี่ย 6,255 คนต่อวัน) แบ่งเป็นผู้โดยสารขาเข้า 21,740 คน และขาออก 22,043 คน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ