นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้ติดตามสถานการณ์การผลิตข้าวเปลือก รับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนเกษตรกร เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ และแนวทางรักษาเสถียรภาพราคาข้าวที่มีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและเกิดความคุ้มค่า โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทุกภาคส่วน ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ตลอดจนโอกาสของข้าวไทยในตลาดโลก
โดยกรมฯ ได้จัดประชุมร่วมกับสมาคมชาวนา 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย, สมาคมชาวนาข้าวไทย, สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย, สมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน รวมทั้งโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ค้า และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์การผลิตข้าวเปลือก ปีการผลิต ปี 2566/67
ทั้งนี้ พบว่า จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิตปี 2566/67 คาดว่าจะอยู่ที่ 25.76 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 26.63 ล้านตัน ลดลง 3% ส่วนหนึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำฝน ในช่วงต้นเดือน ต.ค.66 อีกครั้งถึงจะประเมินปริมาณผลผลิตข้าวปี 2566/67 ได้ชัดเจนขึ้น
สำหรับข้อเสนอแนวทางมาตรการบริหารจัดการข้าว ปี 2566/67 มีการเสนอให้มีการเก็บสต็อกทั้งในส่วนของเกษตรกร สหกรณ์ โรงสี ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยทั้งในส่วนการรักษาเสถียรภาพราคา และมีสต็อกข้าวไว้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ
ขณะที่เกษตรกร ได้เสนอขอให้ช่วยเหลือค่าบริหารจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท/ครัวเรือน ซึ่งกรมฯ จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมด และนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณามาตรการ และแนวทางบริหารจัดการข้าวที่มีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลสำหรับปีการผลิต 2566/67 ต่อไป
นอกจากนี้ ล่าสุดนายภูมิธรรม ได้สั่งการให้กรมฯ เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัด ในการซื้อขายสินค้าเกษตร ให้มีความเที่ยงตรง เพื่อดูแลความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร ซึ่งกรมฯ ได้จัดชุดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบเครื่องชั่งไม่ถูกต้อง ไม่มีความเที่ยงตรง จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด ส่วนเกษตรกร หากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569