กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดทั้งสัปดาห์ (18-24 ก.ย. 66) จำนวนทั้งสิ้น 481,404 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 10,696 คน คิดเป็น 2.27% (WoW) (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ก.ย. 66)
ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 19,499,116 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 815,597 ล้านบาท
สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมากที่สุด ได้แก่ มาเลเซีย 78,042 คน รองลงมา ได้แก่ จีน (61,728 คน) อินเดีย (30,679 คน) เกาหลีใต้ (29,856 คน) และลาว (24,470 คน)
น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากการประเมินสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวเบื้องต้นของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากโอเชียเนียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด 13.48% (WoW) รองลงมา ได้แก่ อเมริกา 4.04% (WoW) ตะวันออกกลาง 3.06% (WoW) อาเซียน 2.69% (WoW) เอเชียตะวันออก 1.68% (WoW) แอฟริกา 1.09% (WoW) และยุโรป 0.70% (WoW) ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 0.55% (WoW)
โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย เกาหลีใต้ และลาว โดยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้ามากที่สุด 15.03% (WoW) ในขณะที่ นักท่องเที่ยวลาว และจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.62% (WoW) และ 8.68% (WoW) ตามลำดับ ในขณะที่ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย และอินเดีย ปรับตัวลดลง 8.17% (WoW) และ 0.56% (WoW) ตามลำดับ
สำหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่านักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก และอาเซียนจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าประเทศ (VISA Free) ประกอบกับช่วงวันหยุดยาวในตลาดสำคัญ เช่น เทศกาลชูซอก (Chuseok) ของเกาหลีใต้ และวันหยุดพิเศษในรัฐกลันตัน มาเลเซีย และยังเป็นช่วงการปิดภาคเรียนของออสเตรเลีย ทั้งนี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 520,000 คน โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากระยะใกล้เป็นหลัก ได้แก่ ตลาดเอเชียตะวันออก โอเชียเนีย และอาเซียน
อย่างไรก็ตาม จำนวนเที่ยวบินและเส้นทางการบินที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ รวมถึงแรงกดดันจากต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง อาหาร และอัตราเงินเฟ้อ ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวทั้งระยะสั้น (Short Haul) และระยะไกล (Long Haul)