บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign-currency Issuer Default Rating หรือ IDR) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) ที่ ?BBB+? และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ?AAA(tha)? แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
ปัจจัยสนับสนุนจากรัฐบาลหนุนอันดับเครดิต: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM มีปัจจัยสนับสนุนจากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating หรือ GSR) ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารหากมีความจำเป็น อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารนั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ/F1) ทั้งนี้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ EXIM นั้นสอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิต ของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย
อันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM ยังได้รวมการพิจารณาถึงสถานะโครงสร้างเครดิตที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เปรียบเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย อันดับเครดิต AAA(tha) ของ EXIM นั้นสะท้อนถึงโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นในประเทศ
ไม่มีการพิจารณาอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน: ฟิทช์ไม่ได้มีการให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน หรือ Viability Rating แก่ EXIM เนื่องจากการดำเนินงานของธนาคารส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยบทบาทของธนาคารในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งทำให้การประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเองไม่ได้มีนัยสำคัญ
มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล: ธนาคารมีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ได้รับการสนับสนุนมากนักจากธนาคารพาณิชย์ ธนาคารนำเสนอบริการทางการเงินและการธนาคารที่หลากหลายเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ส่งออกและธุรกิจของไทย นอกจากนี้ธนาคารยังเป็นธนาคารรัฐเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล: กระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมดในธนาคารและมีอำนาจควบคุมการดำเนินงานของ EXIM รัฐบาลมีอำนาจควบคุมคณะกรรมการของธนาคารซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งฟิทช์คาดว่าความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐดังกล่าว จะดำเนินต่อไปในระยะปานกลาง
ได้รับประโยชน์จากสถานะธนาคารรัฐ: EXIM มีสถานะเป็นธนาคารรัฐและมีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้ธนาคารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อการระดมทุนได้อย่างต่อเนื่อง และธนาคารยังมีประวัติการระดมเงินทุนผ่านตลาดตราสารหนี้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ EXIM ยังสามารถขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 12 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคาร แม้ว่าธนาคารไม่ได้มีความจำเป็นต้องพึ่งพาการค้ำประกันจากรัฐบาล แต่สิทธิในการขอการค้ำประกันจากรัฐบาลนี้น่าจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการระดมเงินทุนจากการที่ธนาคารมีการพึ่งพาการระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้
มีการเติบโตที่ยั่งยืน: สินเชื่อของ EXIM ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2565 และ 13% ในปี 2564 ฟิทช์คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อของธนาคารจะดำเนินต่อไปในระยะปานกลาง เนื่องจากกลยุทธ์ของธนาคารที่เชื่อมโยงปริมาณธุรกิจของธนาคารกับปริมาณการส่งออกของประเทศไทยที่กำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น EXIM ได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 2.2 พันล้านบาทในปี 2564 และอีก 2 พันล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2566 เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ การเพิ่มทุนทำให้อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 11.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 จาก 11.3% ณ สิ้นปี 2565
เนื่องจากความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ EXIM ฟิทช์คาดหวังว่ารัฐบาลจะทำการเพิ่มทุนเพิ่มเติมตามความจำเป็นเพื่อรองรับการเติบโต และเพิ่มความสามารถในการรองรับความเสี่ยงหากเกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร มีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลของประเทศไทยและการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทยจะนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตของ EXIM เช่นกัน อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถของรัฐในการสนับสนุนธนาคาร เนื่องจาก EXIM น่าจะยังคงถูกมองว่าเป็นอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ตราบใดที่อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลยังอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย
การปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM อาจเกิดขึ้นได้ หากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารมีการปรับตัวลดลง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดจากการที่รัฐบาลลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดลงของบทบาทของธนาคารในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงกับรัฐบาล หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคารจากการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)
การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยจะส่งผลให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ EXIM ได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานในด้านการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตภายในประเทศของEXIM ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่บสูงที่สุดแล้ว อันดับเครดิตอื่นและอันดับเครดิตหุ้นกู้
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ EXIM อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ EXIM อาจได้รับการปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารถูกปรับลดอันดับ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน) การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะส่งผลไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ EXIM ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว
การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม ระดับคะแนน ESG ของฟิทช์ไม่ได้เป็นปัจจัยหนึ่งของกระบวนการพิจารณาอันดับเครดิต ระดับคะแนน ESG เป็นการคาดการณ์ถึงความเกี่ยวข้องและความสำคัญของระดับคะแนน ESG ที่อาจจะมีผลต่อการพิจารณาอันดับเครดิต