นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องว่า เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง แต่คงจะไม่เข้าไปก้าวก่าย หรือแทรกแซง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าก็ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด เพราะการส่งออกและการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์เชิงบวก ซึ่งการส่งออกมีส่วนใน GDP ของประเทศถึงกว่า 50% และการท่องเที่ยวอยู่ที่ 20% ของ GDP แต่ก็ต้องดูให้มีความเหมาะสม ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลและติดตามเรื่องนี้อยู่
ส่วนการนำเข้าน้ำมันที่มีต้นทุนสูงขึ้นเมื่อเงินบาทอ่อนค่าลงมากและอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผลกระทบต่อราคาน้ำมันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเรานำเข้าน้ำมันจำนวนมาก ดังน้นก็ต้องหาพลังงานทดแทน รวมถึงต้องใช้แผนระยะยาวในการแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งพลังงาน
นายกรัฐมนตร ยังกล่าวถึงการประกาศเดินหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ตในเดือน ก.พ.67 ว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทย เศรษกิจโลกว่าจะมีผลกระทบหรือไม่ พร้อมทั้งในการพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือถึงแผนระยะกลางและระยะยาวว่า ถ้าเสนอนโยบายออกไปแล้วควรจะเป็นอย่างไร ทั้งภาคเครดิตเรทติ้ง ประชาชน และนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งผู้ว่า ธปท.ได้ให้คำแนะนำและไกด์ไลน์มาว่ารัฐบาลควรทำอย่างไร รัฐบาลก็น้อมรับ รวมถึง รมช.คลังและปลัดกระทรวงการคลังก็จะนำสิ่งที่ได้พูดคุยกับ ธปท.ไปพิจารณา
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุฉุกเฉินในอนาคตจะให้ความมั่นใจประชาชนได้หรือไม่ว่ารัฐบาลยังมีเงินเพียงพอ นายเศรษฐา กล่าวว่า สถานภาพการเงินการคลังของเรายังแข็งแรง
ส่วนแหล่งที่มาของนโยบายแจกเงินดิจิทัลนั้น รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ชี้แจง