นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 37.02/08 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 37.09 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 36.95 - 37.13 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ค่อยดี ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวช้า และยังไม่ เห็นนโยบายทางการเงินการคลังที่คืบหน้า จึงยังไม่มีปัจจัยกดให้เงินบาทแข็งค่า
"เงินบาทวันนี้อ่อนค่าไปถึง 37.13 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังถือเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนครึ่ง" นักบริหารเงิน
กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 37.20 - 37.80 บาท/ดอลลาร์
- เงินเยนอยู่ที่ 149.75/150.00 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.84 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0475/1.0500 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0474 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,447.30 จุด ลดลง 22.16 จุด (-1.51%) มูลค่าซื้อขาย 60,393.44 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,404.42 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น และอ่อนค่าผ่านระดับ 37
บาทต่อดอลลาร์ คิดเป็นอ่อนค่าลง 6.75% จากต้นปี สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยการอ่อนค่าในช่วงหลังได้รับผลจากปัจจัยภายนอก
เป็นหลัก โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาด
ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่
ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี อย่างไรก็ดี เกาะติดค่าเงินบาทใกล้ชิดพร้อมเข้าดูแลหาก
เคลื่อนไหวผันผวนผิดปกติ
- นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องว่า เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง แต่คงจะ
ไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าก็ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด
เพราะการส่งออกและการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์เชิงบวก ซึ่งการส่งออกมีส่วนใน GDP ของประเทศถึงกว่า 50% และการท่องเที่ยวอยู่ที่
20% ของ GDP แต่ก็ต้องดูให้มีความเหมาะสม ซึ่ง ธปท. ดูแลและติดตามเรื่องนี้อยู่
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กดเป้าส่งออกทั้งปี -1.5% ถึง -1% (ณ เดือนต.ค. 66)
จากเดิมที่คาดว่าจะ -1% โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ 1. การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศคู่
ค้าสำคัญ 2. ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ 3. ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ 4. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั่วโลก
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งเปรียบเสมือน ครม.ชุดย่อย โดยมี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแนวนโยบาย กรอบวงเงิน ที่มางบประมาณ กลไกดำเนินการ
ต่างๆ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้ เพื่อมอบนโยบาย
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 20,051,535
คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังมาตรการ VISA Free
มีผลบังคับใช้ นักท่องเที่ยวจีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% (WoW)
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวไตรมาส 3/66
อยู่ที่ระดับ 69 สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่อง
เที่ยวของทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบกับประชาชนกังวลสภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่แน่นอน และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤติโควิด-
19 ขณะเดียวกัน ยังกังวลค่าพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดไตรมาส 4/66 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่อง
เที่ยวของคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งมีวันหยุดยาวถึง 6 ช่วง และการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นในรัฐคลีฟแลนด์ในวันที่ 2 ต.ค.
ว่า เฟดอาจจะยังไม่สามารถยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ในขณะนี้
- สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษร่วงลงมากที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และบรรดานัก
กลยุทธ์ต่างแทบไม่มีมุมมองเชิงบวกสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่าเงินปอนด์จะอ่อนค่าลงอีก
โดย ปภัสสร องค์พิเชฐเมธา/รัชดา คงขุนเทียน