นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการลงนามข้อตกลงเพื่อแก้ไขพิธีสาร ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานศุลกากรสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าด้วยหลักเกณฑ์การตรวจสอบการกักกันและสุขอนามัยทางสัตวแพทย์ เพื่อการส่งออกสัตว์ปีกแช่แข็ง ชิ้นส่วนสัตว์ปีก จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เนื่องจากไทยและจีนเคยมีพิธีสารกันอยู่แล้ว ในการส่งออกไก่และชิ้นส่วนของไก่ไปยังจีน แต่ถูกจัดกันอยู่แค่ไก่ และชิ้นส่วนของไก่
ดังนั้น ประเทศไทยต้องการขยายการส่งออกสัตว์ปีกไปยังประเทศจีนเพิ่ม โดยขอเพิ่มสินค้าเป็ด และชิ้นส่วนของเป็ด รวม 18 รายการ เช่น ตีนเป็ด ข้อปีกเป็ด ปีกกลางเป็ด เป็นต้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ ชี้แจงว่า ถ้าสามารถเปิดตลาดเป็ดในประเทศจีนได้ คาดว่าปีแรก จะมีมูลค่าส่งออกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ครม.จึงแก้ไขพิธีสารเดิม โดยให้เพิ่มรายการสินค้าเป็ดและชิ้นส่วนเป็ด
พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนที่มีอำนาจลงนามในพิธีสารนี้ ไปลงนาม แต่เนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีกำหนดเยือนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 16-19 ต.ค. 66 คาดว่าจะนำเรื่องนี้ไปลงนามในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเยือนประเทศจีนด้วย
"ในปี 65 ไทยส่งออกไก่และชิ้นส่วนไก่ เป็นมูลค่า 13,000 ล้านบาท แต่ 8 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกไปแล้ว 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าจีนต้องการมาก เช่นเดียวกับตีนไก่ ที่ขณะนี้ขาดตลาด เพราะพ่อค้าจีนมากว้านซื้อ ดังนั้น จึงเชื่อว่าเป็ดจะเป็นสินค้าที่ทดแทนได้" โฆษกรัฐบาล ระบุ
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบการลงนามพิธีสาร เรื่องความปลอดภัยอาหาร ด้านการสัตวแพทย์ และการป้องกันพืช เพื่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ผึ้ง จากประเทศไทยไปยังประเทศจีน เพื่อขยายการส่งออกผึ้ง ทำให้ผู้เลี้ยงผึ้งและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากผึ้งมีตลาดส่งออกขยายกว้างมากขึ้น
รวมทั้งเตรียมเปิดการค้าเพิ่มเติม ด้วยการจัดทำพิธีสารว่าด้วยมาตรฐานสุขอนามัย สำหรับผลเสาวรสสด และต้นสนใบพาย จากไทยไปยังประเทศจีนอีกด้วย