นายทศพร นิลกำแหง นายกสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา พร้อมคณะ เข้าพบ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (สธ.) เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหารือถึงอุปสรรคของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมพืชกัญชง และกัญชา โดยขอให้รัฐออกนโยบาย กฎหมาย หรือ พ.ร.บ.พืชกัญชงและกัญชาให้ชัดเจน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
นายทศพร กล่าวว่า ด้วยความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชาในปัจจุบัน ทำให้ภาคอุตสาหกรรมหยุดนิ่ง โดยสมาคมฯ ประกอบด้วยบริษัทฯ ที่เป็นสมาชิกจำนวน 21 บริษัท ทั้งอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ทั้งธุรกิจในส่วนต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต่างได้รับผลกระทบโดยตรง
รวมถึงความเชื่อของประชาชนบางกลุ่ม ที่ยังมองว่าพืชกัญชงและกัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์ แต่ความจริงแล้วพืชกัญชง คือพืชเศรษฐกิจสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น เมล็ด นำไปทำเป็นน้ำมัน เพื่อเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาหารเสริม ส่วนลำต้น สามารถนำเส้นใยไปทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า และส่วนสำคัญ คือ ช่อดอก สามารถนำไปสกัดเพื่อให้ได้สาร CBD ซึ่งมีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ
ปัจจุบัน ในระบบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีผู้ขอใบอนุญาตและได้รับอนุมัติแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งใบอนุญาตเพาะปลูกในระบบส่วนกลาง และแอปพลิเคชันปลูกกัญ ซึ่งมีจำนวนรวม 38,144 ราย ใบอนุญาตสกัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวม 48 ราย และใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชงทั้งเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมกว่า 1,500 ราย ในส่วนของพืชกัญชาที่จะมีสาร THC อยู่ปริมาณมากนั้น สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยได้
นายทศพร กล่าวว่า สมาคมฯ ต้องการให้รัฐบาลมีนโยบาย และกฎหมายของพืชกัญชงและกัญชาที่ชัดเจน แยกระหว่างพืชกัญชงและพืชกัญชาออกจากกัน โดยออกกฎหมาย ประกาศ หรือ พ.ร.บ.ให้ชัดเจน ให้พืชกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพและความงาม ส่วนพืชกัญชาใช้ในทางการแพทย์ มีมาตรการควบคุมการจำหน่าย และให้ความรู้เรื่องผลกระทบกับผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจภาคอุตสาหกรรม ได้รับรู้ถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจ และต้องการให้ทางรัฐบาลผลักดันสนับสนุนคุณประโยชน์ที่แท้จริงของพืชกัญชง รวมถึงสารสกัด CBD ว่ามีคุณประโยชน์หลากหลายสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้ และให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในความปลอดภัยของพืชกัญชงได้อีกด้วย