ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียเที่ยวไทยในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 66 จะอยู่ที่ประมาณ 4.68 แสนคน ทำให้ทั้งปี 66 น่าจะเห็นนักท่องเที่ยวรัสเซียเที่ยวไทยมีจำนวน 1.59 ล้านคน เติบโตกว่า 7% เมื่อเทียบกับปี 62 หรือก่อนโควิด ในช่วงที่เหลือของปี 66 เป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย และประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของชาวรัสเซีย
สำหรับปัจจัยสนับสนุนชาวรัสเซียเที่ยวไทย นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของไทย ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวรัสเซียแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนหลัก 4 เรื่อง ได้แก่
1. กฎระเบียบการเดินทางเข้าประเทศที่สะดวกมากขึ้น หลังรัฐบาลขยายระยะเวลานักท่องเที่ยวรัสเซียพำนักในไทยจาก 30 วัน เป็น 90 วัน (1 พ.ย. 66-30 เม.ย. 67) จากเดิมวีซ่าฟรีอยู่แล้ว และช่วงเวลานี้ก็เป็น High-season จึงน่าจะช่วยหนุนชาวรัสเซียเที่ยวไทยมากขึ้น จากเฉลี่ย 1.10 แสนคนต่อเดือน น่าจะเพิ่มเป็น 1.98 แสนคนต่อเดือน
2. บริษัททัวร์รัสเซียเริ่มทำตลาดมาไทยในช่วงฤดูหนาวมากขึ้น โดยในช่วงต้นเดือน ต.ค. 66 ชาร์เตอร์ไฟล์จาก 13 เมืองในรัสเซียบินมาภูเก็ตและอู่ตะเภา พร้อมกับแผนที่จะเพิ่มความถี่เที่ยวบินมาประเทศไทยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนธ.ค. 66 และเดือนม.ค. 67
ขณะที่ข้อมูลของบริษัททัวร์รัสเซีย ระบุว่า นักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางเที่ยวไทยมีจำนวนมากกว่าในปี 62 หรือก่อนโควิดแล้ว โดยในช่วงฤดูร้อน (ก.ค.-ก.ย. 66) ที่ผ่านมา บริษัททัวร์รัสเซียบางรายมียอดขายที่สูงกว่าในช่วงปี 62 สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 นักท่องเที่ยวรัสเซียเที่ยวไทยเติบโตประมาณ 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62
3. ผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวที่แข่งขันได้ โดยไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวราคาประหยัดอันดับต้นๆ จากข้อมูลรัสเซียทราเวลไดเจส ระบุว่า ราคาแพคเกจท่องเที่ยวจากรัสเซียมาไทยมีราคาถูกกว่ามาเลเซียและเวียดนามประมาณ 40% (เปรียบเทียบราคาเฉลี่ยทัวร์ต่ำสุดในช่วงต้นเดือน ต.ค. 66)
4. ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ อาจทำให้ชาวรัสเซียส่วนหนึ่งเปลี่ยนจุดหมายจากที่เดิมเลือกประเทศในตะวันออกกลาง เช่น อียิปต์ ตุรกี ไปเป็นประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงประมาณการภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งปี 66 ที่ 27.6 ล้านคน โดยต้องติดตามเหตุการณ์ในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ซึ่งเบื้องต้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดนักท่องเที่ยวจากอิสราเอล แม้ตลาดนี้จะมีสัดส่วนไม่มากหรือประมาณ 0.9% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งหมด แต่เป็นตลาดที่สำคัญ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปที่สูง หากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะมีการทบทวนคาดการณ์ตลาดต่างชาติเที่ยวไทยในปีนี้และปีหน้าอีกครั้ง