นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมุ่งมั่นสนับสนุนการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ เดินหน้าสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อสนับสนุนการผลิตและการใช้ EV ที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ เพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ รวมถึงการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608
โดยให้ 5 กระทรวงร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อศึกษาและกำหนดนโยบายและมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์สันดาปภายในมาเป็น EV
ขณะเดียวกันให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พิจารณากำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อส่งเสริมให้เกิดห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) EV ภายในประเทศอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการผลิต EV ภายในประเทศ และรองรับการเป็นศูนย์กลางการผลิต EV และชิ้นส่วนสำคัญของภูมิภาค
ทั้งนี้ให้ทำควบคู่กับคำสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 คือ 1.ให้ทุกหน่วยราชการ และหน่วยงานของรัฐพิจารณาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง EV มาใช้ในราชการแทนรถยนต์เดิมที่จะหมดอายุการใช้งาน หรือที่จะต้องจัดซื้อจัดจ้างขึ้นใหม่ เพื่อรองรับภารกิจใหม่หรือผู้ดำรงตำแหน่งใหม่ 2.ให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับกระทรวงการคลังพิจารณากำหนดมาตรการและมาตรฐาน เพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงรถสาธารณะทุกชนิดให้เป็น EV และดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง เพื่อให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วต่อไป และ 3.ให้กระทรวงพลังงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาธารณะ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการใช้งาน EV ให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานตามความจำเป็นเร่งด่วนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
"รัฐบาลได้เร่งเตรียมความพร้อม วางมาตรการและนโยบายอย่างครอบคลุมเพื่อจะไปสู่เป้าหมายความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน แม้เป้าหมายจะมีความท้าทาย และต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทุกหน่วยงานของรัฐพร้อมเดินหน้า ดำเนินมาตรการและนโยบาย สนับสนุนให้ไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และใช้เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ" นางรัดเกล้า กล่าว