น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่มีการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศผ่านต้นทุนทางวัฒนธรรม Soft Power of Thailand อย่างสร้างสรรค์ โดยได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะ 100 วันแรก (1 ต.ค.-31 ธ.ค. 66) ระยะ 6 เดือน ระยะ 1 ปี
โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่า จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมั่น และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพ รวมถึงพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมผลักดันไปสู่เป้าหมายภาพรวมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยตามที่ตั้งไว้ ของปี 66 และส่งผลต่อเนื่องถึงปี 67 ด้วย
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และกระทรวงวัฒนธรรม จึงกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว "Colorful Bangkok Winter Festival" เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวผ่านนโยบาย Soft Power 5fs (Festival) ณ พื้นที่กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังกรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่
1. "กิจกรรมสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" จัดขึ้น ณ คลองผดุงกรุงเกษม เพื่อสืบสานงานประเพณีลอยกระทงของไทย และส่งเสริมการท่องเที่ยวเส้นทางคลองในเมืองหลวงให้กลับมามีชีวิตชีวา โดยมีไฮไลต์เป็นการจัดทำแลนด์มาร์คกระทงประดับไฟ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้ประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น จนเกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่การจัดงานลอยกระทงที่มีอัตลักษณ์ นำมาสู่การสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว คาดว่าจะเกิดรายได้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวจากการจัดกิจกรรม ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในภาพรวมของพื้นที่ที่ ททท. จัดงาน และ 5 พื้นที่อัตลักษณ์จะมีอัตราผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเข้าร่วมเพิ่มขึ้น 10% (จากเดิม 469,450 คน-ครั้ง) และสร้างรายได้หมุนเวียน เพิ่มขึ้น 7% (จากเดิม 1,960 ล้านบาท) เทียบกับปี 65 ที่ผ่านมา
2. "กิจกรรม Amazing Thailand Marathon Bangkok 2023" (ครั้งที่ 6) ในวันที่ 3 ธ.ค. 66 เพื่อตอกย้ำกรุงเทพฯ ประเทศไทย เป็นเป้าหมาย Sport Tourism Destination ระดับโลก ติดอันดับ 1 ใน 3 มาราธอนของทวีปเอเชีย ที่จัดขึ้นในเมืองหลวง (Capital City Marathon) ภายใต้การรับรองของสมาคมกรีฑาโลก World Athletics ซึ่งคาดปีนี้จะมีผู้ร่วมวิ่งกว่า 3 หมื่นคน สร้างรายได้หมุนเวียนไม่น้อยกว่า 582 ล้านบาท
3. "กิจกรรม Amazing Thailand Passport Privileges" เพื่อสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายของการช็อปปิ้งเพิ่มขึ้น และขยายลูกค้าใหม่จากต่างประเทศให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว กระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว รวมทั้งยังสร้างการรับรู้สินค้า OTOP ของดีชุมชนระดับพรีเมี่ยมทั่วประเทศ คาดว่าจะสร้าง รายได้ และเงินหมุนเวียนในช่วงของการดำเนินโครงการ ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท
4. "กิจกรรมวิจิตรเจ้าพระยา" จากปีที่แล้วจัดกิจกรรม 16 วัน ในปีนี้ขยายเวลาเป็น 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่ 1-31 ธ.ค. 66 ณ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ทั่วโลกรับรู้และเห็นความสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยได้คัดเลือกพื้นที่จัดการแสดงที่มีเอกลักษณ์และสามารถสะท้อนให้นักท่องเที่ยวได้เห็นถึงความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมที่งดงามจากแนวของสายน้ำที่คดโค้งไหลผ่านวัดวาอาราม และย่านสำคัญที่แสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำ สู่แลนด์มาร์กของประเทศไทย โดยจะส่งผลช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวก่อให้เกิดรายได้ต่อผู้ประกอบการเรือร้านอาหาร และธุรกิจริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น โรงแรม ร้านอาหาร เรือทัวร์ เป็นต้น คาดการณ์เงินหมุนเวียนในช่วงการจัดกิจกรรม 750 ล้านบาท
5. "กิจกรรม Amazing Thailand Countdown" ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็น Global Countdown Destination ของโลก และกรุงเทพมหานครเป็นสถานที่เคานต์ดาวน์ที่น่าจดจำ ซึ่งปีที่ผ่านมาสำนักข่าว CNN เลือกกรุงเทพมหานคร เป็น 1 ใน 10 เมืองที่น่าสนใจที่สุดของโลกในการร่วม Countdown และได้ถ่ายทอดสัญญาณสดให้ทั่วโลกได้รับชมการแสดงพลุตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาของงาน Amazing Thailand Countdown คาดการณ์ว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนจากการจัดกิจกรรมไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ยังมีการจัดงาน Countdown ที่ ICONSIAM และ CENTRAL WORLD ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนกว่า 1,175 ล้านบาท
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชื่อมั่นว่า การจัดกิจกรรมนี้จะส่งผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ในช่วงฤดูการท่องเที่ยวของประเทศไทย (High Season) ผ่านนโยบาย Soft Power 5fs : Festival (งานเทศกาล) ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสพฤติกรรมนักท่องเที่ยว และตอบรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวรวม 2.4 ล้านล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 28 ล้านคน ตามที่ตั้งไว้