นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ จะเกิดขึ้นได้เมื่อไรนั้น ต้องถามจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ซึ่งเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) คณะทำงานก็ได้หารือกับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อปรับปรุงมาตรการตามที่มีข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามา ซึ่งตนจะขอหารือในส่วนนี้ก่อน
ส่วนจะเป็นเหตุให้ต้องเลื่อนโครงการนี้ออกไปหลังเดือนก.พ.67 หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา แต่รัฐบาลจะพยายามทำโครงการนี้ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด ส่วนการปรับเงื่อนไขของผู้ที่ได้รับสิทธิ จะใช้หลักเกณฑ์ใดพิจารณาว่าเป็นผู้ที่มีรายได้สูง หรือมีรายได้ไม่สูงนั้น ตนพร้อมรับฟัง หากจะมีการปรับเงื่อนไขนี้ ซึ่งกำลังหาคำจำกัดความที่เหมาะสม โดยจะต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"คำนิยามว่า "คนรวย" คืออะไร ก็น้อมรับคำแนะนำของผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ว่าควรที่จะเจาะจงมากขึ้น บางภาคส่วนที่ไม่เดือดร้อนก็ไม่ต้องรับ" นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนข้อเสนอที่อยากให้รัฐบาลแบ่งจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต ออกเป็น 3 งวด แทนการจ่ายงวดเดียว 1 หมื่นบาทนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้นำข้อเสนอนี้มาพิจารณาแล้ว แต่ยังคงยืนยันที่จะจ่ายเพียงงวดเดียว ทั้งนี้ เพราะต้องการให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจทีเดียวให้ได้เม็ดเงินจำนวนมาก
ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่ออกตัวสนับสนุนโครงการนี้นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกพรรค ยังคงสนับสนุนโครงการนี้ ไม่มีพรรคใดมีปัญหา
นายกรัฐมนตรี ยังระบุด้วยว่า ไม่กังวลต่อกรณีที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มองว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตมาถึงทางตันแล้ว เพราะขัดต่อกฏหมาย ส่วนที่มีหลายฝ่ายนำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตไปร้องเรียนกับองค์กรอิสระนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ชี้แจงในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทย เติบโตเฉลี่ยเพียง 1.8% แต่หนี้ครัวเรือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 76% เป็น 91% สูงสุดติดอันดับ Top 10 ของโลก ดังนั้นประเทศไทยต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็จำเป็นต้องเดินสายชี้แจง ขณะเดียวกันก็พร้อมรับฟังข้อท้วงติงต่างๆ ด้วย