นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย กล่าวภายหลังหารือถึงแนวทางการออกกรีนบอนด์ กับ Sir Robert Stheeman CEO UK Debt Management Office ว่า จากการที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีแนวคิดเรื่องนโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามแนวทาง UN SDGs นวัตกรรมด้านแหล่งเงินทุนที่สามารถนำมาใช้ดำเนินโครงการภายใต้นโยบายดังกล่าว ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง
โดยประเทศไทย ตั้งเป้าหมายเป็นประเทศที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และเป็นประเทศปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี พ.ศ. 2608 ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว ประเทศไทยได้กำหนดเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศ (Nationally Determined Contribution:NDC) ให้สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 30% ภายในปี พ.ศ.2573
นางนฤมล กล่าวว่า ในการหารือครั้งนี้ ได้เรียนรู้รูปแบบโครงการที่ดำเนินงานได้อย่างสัมฤทธิ์ผลในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากสหราชอาณาจักร ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐบาลไทยเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เช่น โครงการสนับสนุนผู้ขับขี่ในการใช้รถ EV, โครงการร่วมทุนกับภาคเอกชนในการติดตั้งสถานีชาร์จรถ EV, โครงการร่วมทุนในการผลิตพลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน และโครงการสนับสนุนการปลูกไม้มีค่าบนที่ดินเพื่อทำการเกษตร เป็นต้น
ทั้งนี้ รัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้ดำเนินโครงการต่างๆ จนประสบความสำเร็จ มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมและจะใช้การเงินสีเขียว (Green Financing) เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อน โดยระดมทุนผ่านทางการออกพันธบัตรสีเขียว (Green Gilts) และพันธบัตรออมเงินสีเขียวสำหรับรายย่อย (Retail Green Savings Bonds) เพื่อใช้ในการรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความท้าทายอื่นๆ ด้านสิ่งแวดล้อม ใช้สำหรับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Jobs) รวมถึงการพิจารณา การคัดเลือก การตรวจสอบ และการรายงานโครงการสีเขียวที่เข้าข่ายได้รับการสนับสนุนด้านการเงินดังกล่าว
ผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะผู้ระดมทุนสำหรับภาครัฐ อยู่ระหว่างการศึกษาการออกพันธบัตรส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-Linked Bond) ซึ่งเป็นพันธบัตรที่มีรูปแบบการกำหนด KPI เพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน ESG แทนการระบุโครงการที่ออกภายใต้พันธบัตร เพื่อสนับสนุนให้ตลาด ESG Bond มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เพื่อคัดเลือกวัตถุประสงค์และเป้าหมาย ตลอดจน KPI ที่เหมาะสมสำหรับการออก Sustainability-Linked Bond และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อม ของสังคมของประเทศไทยต่อไป