ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.20 แกว่งแคบ รอดูปัจจัยใหม่สัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 27, 2023 17:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.20 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 36.21 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวใน กรอบ 36.17 - 36.27 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่มีกระแสเงินทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อพันธบัตรราว 5.8 พันล้านบาท

"เงินบาทแกว่งตัวในกรอบแคบๆ คาดว่านักลงทุนรอดูปัจจัยใหม่เข้ามาในสัปดาห์หน้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 36.10 - 36.35 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้ตลาดรอ ดูตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ก.ย.ของสหรัฐ และช่วงกลางสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคาร กลางสหรัฐฯ (เฟด)

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 150.00 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 150.31 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0562 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0557 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,388.23 จุด เพิ่มขึ้น 17.01 จุด, +1.24% มูลค่าการซื้อขาย 41,247.37 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,388.87 ล้านบาท
  • สศค.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 66 โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% (ช่วงคาดการณ์ที่ 2.2 - 3.2%) จากเดิมที่
คาดไว้จะโตได้ 3.5% ผลจากภาคการส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของ
ไทย ทำให้คาดว่าภาพรวมการส่งออกของไทยในปีนี้ -1.8% หดตัวเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ -0.8% ขณะเดียวกันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่าง
ชาติที่คาดว่าจะเดินทางเข้าไทยในปีนี้ ลดลงเหลือ 27.7 ล้านคน จากคาดการณ์เดิมที่ 29.5 ล้านคน
  • สศค.เผยภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือน ก.ย.66 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่
2 ภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวลดลงต่อ
เนื่อง อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในด้านต่างๆ
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดการส่งออกของไทยในระยะต่อไปมีแนวโน้มขยายตัวต่อ
เนื่อง โดยมีแรงสนับสนุนจากปัจจัยราคาสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยฐานต่ำในไตรมาส 4 ของปี 66 อย่างไรก็ดี การเติบโตของการส่ง
ออกช่วงท้ายปีจะไม่สามารถชดเชยภาพรวมการส่งออกตั้งแต่ต้นปีที่หดตัวแรงได้ ส่งผลให้คาดว่ามูลค่าส่งออกสินค้า (ระบบดุลการชำระ
เงิน) ในปี 66 มีแนวโน้มหดตัว 1.5% แต่มีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัวได้ 3.5% ในปี 67
  • บรรดานักลงทุนจับตารอการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. ของสหรัฐ
ในวันนี้ เพื่อพิจารณาทิศทางเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม หลังจากที่สัญญาณเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลงเมื่อวานนี้ (26 ต.ค.) ส่งผลให้อัตรา
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง
  • สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมเฟดในวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2566 นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่าเฟดจะ
คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายในปีนี้ แม้ว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อ
สกัดเงินเฟ้อ
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-

5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และให้น้ำหนัก 68.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ